Welcome to Gaia! ::

Reply [ [ Character Journal ] ]
[Rance Diary][Thai] Hidden Pain Goto Page: 1 2 [>] [»|]

Quick Reply

Enter both words below, separated by a space:

Can't read the text? Click here

Submit

R a n c e
Crew

PostPosted: Sat Jun 24, 2006 2:29 am


เสาร์ 9 ก.ค. 1378 วันหนึ่งที่อากาศอบอ้าว

ไม่นึกเลยว่าผมจะได้หยิบไดอารี่เล่มนี้ขึ้นมาเขียน ไดอารี่ที่เธอให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว... ตัวผมเองไม่ใช่คนที่ชอบเขียนไดอารี่ ว่าจะเก็บไว้เฉยๆ แต่... ไหนๆก็ไหนๆ... จะไม่ใช้ก็ไม่ดีเท่าไหร่ ของใช้ควรจะถูกใช้อย่างเหมาะสมเป็นเรื่องที่สมควรที่สุดแล้ว


... วันแห่งการจดจำ...
เอเดรียน่า... นางฟ้าองค์นั้น... ผมพบเธอเมื่อราวสิบปีก่อน แต่เรารู้จักกันมาห้าปีเศษ เธออยู่ในใจผมตลอดมา แต่ผมไม่เคยบอกให้เธอรู้ ผมมีความสุขดีอยู่แล้วเพียงแค่ได้เฝ้ามองและคอยดูแลเธอยามเธอไม่สบายใจ เธอเป็นดอกฟ้าที่สูงส่ง แต่ผม... เป็นเพียงไส้เดือนดินที่ต่ำต้อย

ผมมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่ง หมอนั่นเป็นเผ่าพันธุ์ปิศาจ โซลท์มีลักษณะที่แปลกเพราะลักษณะเด่นที่ใส่ที่คาดตาข้างขวา รอยแผลเป็นยาวพาดเฉียงผ่านแนวใบหน้า และหางหมาป่า ที่ปิศาจปกติไม่ควรจะมี... ผมรู้จักโซลท์หลังเอเดรียน่าหนึ่งปี เราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน รวมเจเรี่ยนที่เป็นจอมเวทย์เอล์ฟนั่นก็เป็นสี่

ตั้งแต่ที่ผมแนะนำโซลท์ให้เอเดรียน่าได้รู้จัก เธอดูจะสนใจเขาอย่างมาก ผมคอยเฝ้ามองเธอมาตลอด และมั่นใจว่าเธอชอบโซลท์ และก็เป็นอย่างที่ผมคาดคิด เธอมักมาปรึกษาหรือถามคำถามเรื่องเกี่ยวกับโซลท์กับผมบ่อยๆ

จนกระทั่ง... เธอตัดสินใจจะบอกขอคบกับโซลท์เมื่อสองวันก่อน เอเดรียน่าปรึกษาผม นั่นทำให้ผมชาไปทั้งตัว... หัวใจของผมหล่นวูบ... แต่ถ้ามันเป็นความสุขของเธอ ผมก็ควรจะสนับสนุนเธอ ผมให้กำลังใจเอเดรียน่าว่าให้รุกโซลท์ไปเลย

วันนี้ เธอกลับมารายงานผลให้ผมฟัง โซลท์ตอบรับคำขอของเธอ เอเดรียน่ายิ้มจนแก้มปริเมื่อเล่าถึงเขา เธอจับมือผมเขย่าพลางพูดซ้ำๆว่าเธอดีใจแค่ไหน ผมเพียงได้แต่ยิ้มตอบรับอาการดีใจนั้น ทั้งๆที่ในใจมันช่างปวดร้าว...


ผมคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ปล่อยให้เธอไป... แต่อันที่จริงผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะห้ามเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่..?
PostPosted: Mon Dec 11, 2006 9:38 am


อาทิตย์ 10 ก.ค. 1378 ยังร้อนอยู่ ร้อนทั้งใจและกาย

แกรนท์มาเคาะประตูเรียกแต่เช้า อะไรของมันนะ หาข้าวกินเองไม่ได้หรือไง เจ้าน้องชายตัวดีอายุห่างกว่าผม 7 ปีโวยวายอะไรสักอย่างอยู่หน้าประตู วันนี้ผมไม่อยากจะออกจากบ้าน ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้น

เสียงเงียบไปพักหนึ่งแล้วเจ้าตัวแสบก็เปิดประตูเข้ามา ... ดันใช้กุญแจสำรองซะอีก

แกรนท์ถึงกับทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ผมเมื่อเห็นผมยังคงนอนอุดอู้อยู่บนที่นอน บอกว่าผมทำตัวเหมือนหอยทาก... ถ้าพี่เป็นหอยทาก แกก็เป็นน้องหอยทากล่ะวะ

จนแล้วจนรอดผมก็โดนเจ้าแกรนท์สลัดผ้าห่มใส่จนผมกลิ้งลงมาจากเตียงจนได้ ขอนอนมั่งไม่ได้รึไง

ในที่สุดก็ต้องลากสังขารและหัวใจป้อแป้ไปซ้อมดนตรี... ให้ตายสิ... ไม่อยากเจอหน้าหมอนั่นตอนนี้เลยน๊า...

โซลท์มาถึงวงอยู่ก่อนแล้ว สีหน้าหมอนั่นไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม ยังคงเป็นคนไร้อารมณ์เหมือนเดิมเลย (แต่ก็ยังดีกว่าเจเรี่ยน) .... หมอนั่นไม่พูดถึงเอเดรียน่าสักคำ...

เพราะมัวแต่พะวงและกังวลเรื่องเอเดรียน่ากับโซลท์ การซ้อมวันนี้ของผมเลยไม่ราบรื่นเท่าที่ควร

เฮ้อ... ขากลับผมแวะร้านเหล้า... น่าสมเพชซะจริงๆที่ต้องมาพึ่งแอลกอฮอล์แบบนี้...

R a n c e
Crew


R a n c e
Crew

PostPosted: Mon Dec 11, 2006 9:53 am


จันทร์ 11 ก.ค. 1378 อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย แต่ในใจยังไม่สงบอยู่ดี

"พี่กินเหล้า"
นั่นคือคำแรกที่แกรนท์พ่นใส่หน้าผมเมื่อผมก้าวเข้าบ้าน

เรามีปากเสียงหลังจากนั้นนิดหน่อย ผมจะกินเหล้าหรือไม่นั่นมันก็เรื่องของผม แต่แกรนท์ดูจะไม่พอใจเท่าไหร่.. ทำไมล่ะ ทีอย่างนายยังกินเหล้าบ่อยๆเลยไม่ใช่รึไง
"เจ๊โทรมาหาพี่เมื่อคืน" เอาแล้วไง... ผมบอกปัดไปว่าต่อไปนี้ถ้ามีใครติดต่อเข้ามานอกจากวงดนตรีให้บอกปัดไปทั้งหมด... รวมทั้งเอเดรียน่าด้วย...
แกรนท์ขมวดคิ้วแล้วนั่งลงที่โซฟาข้างๆผม
"เจ๊คบกับลุงแล้วใช่มั้ย"
ผมเงียบไปอึดใจ แล้วค่อยๆพยักหน้า ความจริงที่ผมอยากจะหนีมากที่สุด... แม้จะพยายามบีบบังคับให้ตัวเองคิดว่าจงมีความสุขเมื่อเห็นคนที่รักมีความสุข แต่มันยากเสียเหลือเกิน ผมจะมีความสุขได้อย่างไร...

แกรนท์นั่งเงียบๆอยู่อย่างนั้น

เจ้าน้องชายตัวดีไม่ได้ออกนอกบ้านวันนี้ ไม่รู้ว่าตั้งใจอยู่บ้านอยู่แล้วหรือว่าตั้งใจจะอยู่เป็นเพื่อนผมกันแน่ ถึงเจ้าตัวแสบนี่ปกติจะเป็นคนดูง่าย แต่บางทีผมก็เดาความคิดมันไม่ออกเหมือนกัน

ผมตั้งคำถามกับตัวเอง มันผิดที่ผมรึเปล่าที่ไม่กล้าจีบเธอ
แต่ก็นั่นล่ะ... มองเธอมาตั้งเกือบสิบปีก็พอจะรู้สเป็คผู้ชายของเธอเลาๆอยู่ แล้วผมก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้นซะด้วยสิ เป็นเพียงแค่เพื่อนรักเพื่อนสนิทที่คอยให้คำปรึกษาของเธอเท่านั้นเอง
PostPosted: Mon Dec 11, 2006 10:24 am


อาทิตย์ 17 ก.ค. 1378 ร้อนโคตร

บ้าชะมัดเลย อารมณ์หม่นหมองกับอากาศร้อนๆนี่มันยิ่งทำให้จิตใจย่ำแย่เป็นทวีคูณ
ไม่ได้ไปซ้อมที่วง ไม่ได้เจอหน้าเอเดรียน่าหรือโซลท์หรือเจเรี่ยนมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เอเดรียน่ายังคงโทรมาทุกวันแต่แกรนท์ก็ช่วยบอกปัดไปว่าผมมีธุระด่วนตลอดสัปดาห์ ส่วนโซลท์... ไม่ได้โทรมาสักครั้ง เอเดรียน่าคงบอกหมอนั่นเรียบร้อยแล้วเรื่องผม

วันนี้แกรนท์พาผมออกมาขี่มอไซค์คันโปรดของมัน ตั้งใจจะพาผมไปไหนก็ไม่รู้ เห็นบอกว่าถ้าถึงเดี๋ยวก็รู้เอง

ผมหลับตาลงตอนนั่งซ้อนมอไซค์แกรนท์ ลมที่ตีผ่านหน้าแม้จะแรงไปนิดแต่ก็ให้ความรู้สึกดี เจ้าน้องชายคนนี้ชอบพาผมมาขี่มอไซค์ทุกครั้งที่ผมไม่สบายใจ

"ถึงแล้ว"
แกรนท์พาผมมาที่...... สุสาน... ของพ่อกับแม่...

สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาติดทะเลไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากตัวเมืองที่พวกเราอาศัยอยู่ ผมยังจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ ... พ่อกับแม่บอกว่าจะออกไปซื้อของ แต่ท่านก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย มีแต่ข่าวร้ายจากคนในเมืองมาบอกว่าทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียชีวิตคาที่... วันที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตของผมและน้อง เรื่องมันผ่านมาตั้ง 14 ปีแล้วแต่ผมก็ไม่มีวันลืม พวกเราไม่มีญาติพี่น้องคนอื่น งานศพที่จัดขึ้นก็ด้วยเงินช่วยเหลือจากเพื่อนที่ทำงานของพ่อกับแม่ แรกๆทุกคนก็สงสารผมกับน้องและพยายามช่วยเหลือ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนก็ต่างลาจาก ผมต้องกลายเป็นทั้งพี่ชาย พ่อและแม่ให้กับน้องเพียงคนเดียวของผม แกรนท์ในตอนนั้นยังอายุเพียงแค่ 5 ขวบ ส่วนผม 12 ผมต้องจัดการทุกอย่าง เงินทั้งหมดที่พ่อแม่มีเก็บเอาไว้สำหรับการศึกษาของผมและน้อง เพราะพ่อแม่หวังให้พวกผมได้รับการศึกษาที่ดี ผมต้องทำงานหาเงินไปเรียนไปตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของพวกเราลำบากมาก แทบจะเรียกว่าไม่มีจะกิน แต่พวกเราก็ไม่เคยย่อท้อ ทุกครั้งที่ท้อแท้พวกเราจะนึกถึงคำสอนที่พ่อแม่คอยพร่ำบอก ยามที่นึกถึงใบหน้าของท่านทั้งสองทำให้เรามีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป

ผมค่อยๆนั่งลงหน้าหลุมศพของพ่อกับแม่ จริงสินะ ผมเป็นพี่ ต้องอดทน ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่น้อง ไม่ว่าปัญหาอะไรก็ต้องมีทางออกเสมอ การจมดิ่งกับความทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่สมควรทำ แต่การเผชิญหน้ากับปัญหาและความเป็นจริงต่างหากที่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

"ช่วงนี้พี่เอาแต่ซึม จำได้รึเปล่าว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันครบรอบวันตายของป๊ากับม๊า"
"จำได้สิ ... ขอโทษนะครับ พ่อครับ แม่ครับ ที่ลูกชายไม่เอาถ่านคนนี้แสดงความอ่อนแอให้น้องเห็นอีกแล้ว"

แกรนท์ยิ้มบางๆ แล้วสำทับ
"ใช่ครับ ป๊า ม๊า พี่น่ะ ไม่ได้เรื่องชะมัดเลย ต้องให้ผมคอยดูแลทู้กกกกที"
"พ่อครับ แม่ครับ ดูสิว่าน้องน่ะพยศขนาดไหน เล่นทิ้งให้ผมเลี้ยงคนเดียวนี่เหนื่อยนะเนี่ย"

ผมหัวเราะตอบใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้น ขอบใจที่เตือนสติพี่นะเจ้าน้องชาย

R a n c e
Crew


R a n c e
Crew

PostPosted: Mon Dec 11, 2006 8:10 pm


จันทร์ 18 ก.ค. 1378 พยากรณ์อากาศบอกว่าจะร้อนแบบนี้ไปอีกหลายวัน

ตื่นมาเจ้าตัวแสบก็ไม่อยู่บ้านแล้ว สงสัยจะออกไปหางานทำ

ผมแต่งตัวออกจากบ้านแล้วรีบไปที่วง วันนี้ผมไปถึงเป็นคนแรกก็เลยทำความสะอาดเครื่องดนตรีไปพลางๆระหว่างรอคนอื่น โซลท์มาถึงไม่นานหลังจากนั้น ผมยิ้มทักทายหมอนั่นพลางบอกขอโทษที่หายหัวไม่ยอมมาซ้อมดนตรีซะนาน โซลท์พยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงตอบรับ ก่อนจะออกไปสูบบุหรี่

โซลท์รู้ว่าผมคิดยังไงกับเอเดรียน่า ถึงได้ตอบรับเธอ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของเขา แต่อีกส่วนหนึ่ง... จากในความเห็นของผม คนอย่างโซลท์ไม่อยากทำร้ายจิตใจของคนอื่นโดยไม่จำเป็น ยิ่งเฉพาะกับเพื่อนด้วยแล้ว... เขาจะยิ่งใส่ใจคนๆนั้นมากเป็นพิเศษ


ตกเย็น พอทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมเดินกลับพร้อมกับโซลท์ ผมลองถามเรื่องเอเดรียน่าดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง
"มีความสุขดี"
ดูเหมือนโซลท์จะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ จึงตอบออกมาแบบนั้น ผมยิ้มแล้วตอบกลับไปว่าดีแล้วล่ะ
PostPosted: Tue Dec 12, 2006 2:51 am


อังคาร 19 ก.ค. 1378 ร้อนมากๆ

อากาศร้อนขึ้นทุกวันๆ จะเป็นเนื้อแดดเดียวอยู่แล้วนะโว้ย
โวยวายพระอาทิตย์ไปก็เท่านั้น... อยากได้เครื่องปรับอากาศจัง...

วันนี้คริส (เพื่อนผมในวง มือกลอง) โทรมาบอกว่าจะหยุดซ้อมดนตรีไปอีกสัปดาห์ เพราะเซไนล์ไปต่างประเทศ (เพื่อนในวงอีกคน นักร้องนำ) ผู้จัดการก็ตามไปด้วย กว่าจะกลับก็อาทิตย์หน้าโน่น ผมเลยว่าจะหางานทำช่วงนี้ไปพลางๆ

จัตุรัสวันนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ สงสัยเพราะอากาศร้อนนี่ล่ะมั้ง ป้ายประกาศรับสมัครพนักงานมีอยู่เพียงไม่กี่ใบ เลือกงานที่จ่ายเป็นรายวันน่าจะดีกว่า จะออกเมื่อไหร่ก็ได้

"แรนซ์?"

เสียงคุ้นเคยที่ผมไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร
"อ้าว ไง เอเดรียน่า... วันนี้ไม่ทำงานที่ร้านเหรอ? แล้วโซลท์ล่ะ?"
ผมทักตอบไปโดยอัตโนมัติ หญิงสาวเจ้าของเรือนผมนุ่มสีชมพูอมแดงราวทับทิมยิ้มตอบกลับมา
"โซลท์ไปธุระ ส่วนวันนี้ฉันให้คนที่ร้านดูแลให้"

แล้วเอเดรียน่าก็ชวนผมดื่มเป็นเพื่อนที่ร้านประจำที่เรามักมาดื่มกันเสมอ ปกติเอเดรียน่าเป็นคนใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น แต่เวลาเธอได้จ่ายจะถึงไหนถึงกัน เหล้าที่พวกเราดื่มบ่อยๆเธอก็มักจะเป็นฝ่ายออกเงินเสมอ แม้ว่าผมกับโซลท์จะออกปากจ่ายเองทีไร เธอก็ดื้อดึงจะจ่ายให้ทุกครั้งไป

เอเดรียน่าเล่าอย่างตื่นเต้นว่าวันที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง เธอทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เธอกับโซลท์ไปได้ดีแค่ไหน โซลท์เป็นบุรุษที่เลอเลิศสำหรับเธอแค่ไหน เธอหลงใหลเขาแค่ไหน ... จริงๆมันก็เป็นสิ่งที่เธอพร่ำบอกผมมานานทั้งนั้น แต่ในความรู้สึกที่แตกต่างออกไป เพราะในเมื่อเธอได้สัมผัสกับสิ่งที่เธอปรารถนาแล้ว ความสุขในน้ำเสียงนั้นยิ่งเพิ่มทวียามกล่าวถึงชายที่เธอรัก

เธอไม่แม้แต่จะถามว่าผมเป็นยังไงบ้าง ทำไมถึงได้หายหน้าไป
ผมพยายามจะเข้าใจ ว่าเธอกำลังอยู่ในช่วงที่กำลังตื่นเต้นดีใจที่ได้ชายที่เธอรักมาอยู่เคียงข้าง
ผมบีบบังคับหัวใจตัวเอง บีบคั้นสีหน้าตัวเองให้ยิ้มแย้มตอบรับความดีใจของเธอ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าใบหน้าของผมกำลังบิดเบี้ยวอย่างปวดร้าว

เธอขอตัวลากลับเพื่อไปดูแลร้านหลังจากที่นั่งคุยกับผมไม่กี่ชั่วโมงถัดมา

ผมก้าวออกมาจากร้านประจำ ท้องฟ้าสดใสที่มีแดดจ้าเมื่อสักครู่กลับมีเมฆบดบังครึ้ม ไม่ต่างอะไรกับจิตใจของผม

ดีแล้วล่ะ... ดีแล้ว... เรามีความสุข เรามีความสุข... ถ้าเธอมีความสุข... เราก็มีความสุข...

แต่ทำไมน้ำตาถึงได้ไหล ผมก็ไม่เข้าใจ...

R a n c e
Crew


R a n c e
Crew

PostPosted: Fri Dec 15, 2006 4:27 am


พุธ 20 ก.ค. 1378 อากาศเป็นยังไงไม่รับรู้ แต่อารมณ์ขุ่นมัวมาก

"อะไรกัน กลับมาซึมอีกแล้ว"
เสียงหนวกหูน่ารำคาญของเจ้าตัวจุ้นลอยมาเข้าหูผม
"อย่ามายุ่งน่า"
ผมคว้าขวดเหล้ามารินลงใส่แก้ว ของเหลวสีอำพันไหลเอื่อยลงแก้วใส ผมยกแก้วขึ้นหมุนเล่นในมือ ก่อนจะกระดกขึ้นดื่ม แต่ก่อนที่เหล้าจะได้เข้าปาก แก้วใบนั้นก็หายไปอยู่ในมือของแกรนท์
"เอาคืนมา แกรนท์"
"ไม่"
แล้วมันก็ฉวยขวดเหล้าไปจากบนโต๊ะ ตรงดิ่งไปยังห้องครัว ผมตะโกนไล่หลัง แต่มันก็ไม่ยอมฟัง ทำไมทุกคนถึงได้ทำตัวให้ชั้นรำคาญใจเสมอเลยวะ!? พอลุกตามเข้าไปก็เห็นน้องเทเหล้าทิ้งหมดขวดพอดี
"พี่ควรทำใจสิ อย่าทำร้ายตัวเองได้มั้ย"
"ไม่ใช่เรื่องของแก!"
"แต่พี่เป็นพี่ของชั้น! ไอ้พี่เฮงซวย!!!"

หมัดลุ่นๆถูกเหวี่ยงไปยังแก้มขวาของคนที่อยู่ตรงหน้า แกรนท์เซล้มลงไปชนกับผนังครัว ผมยืนนิ่งมองน้องของตัวเองเช็ดเลือดที่มุมปากออก แกรนท์ค่อยๆลุกขึ้นยืน และเอ่ยกับผมด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ
"แต่พี่... พี่สัญญากับป๊ากับม๊าแล้ว..."
ผมเงียบไม่ตอบ แกรนท์จึงพูดต่อ
"แล้วถ้าเจ๊รู้ว่าพี่ทำตัวแบบนี้ เจ๊ก็ไม่ดีใจหรอกนะ..."
"แล้วจะให้พี่ทำยังไง!? อดทนต่อไปรึ!? ต้องเจ็บอยู่คนเดียวรึ!?"
ผมกระชากคอเสื้อน้องแล้วตะคอกใส่เขา แกรนท์จ้องหน้าผมนิ่ง
"พี่เหนื่อยแล้ว... แกรนท์..."
"งั้นพี่ก็พักซะสิ"
แกรนท์จับมือของผมที่กำลังขยุ้มคอเสื้อของเขา แล้วกึ่งดึงกึ่งลากผมมานั่งที่โซฟา ส่วนเจ้าตัวเดินหายไปในห้องครัวแล้วกลับมาพร้อมน้ำเย็นใส่น้ำแข็งหนึ่งแก้ว ยื่นให้ผม
"ขอบใจ"
ผมยื่นมือไปรับน้ำ สายตาพลางเหลือบมองหน้าน้องชาย แก้มขวาของมันเป็นรอยแดงช้ำจากการต่อย ผม... ทำอะไรลงไป...
"แกรนท์... พี่ขอโทษ... ที่ชกหน้าแก..."
"ลืมมันซะเถอะ ผมไม่ถือหรอก ต่อยกับชาวบ้านจนชินกับการโดนชกแล้วล่ะ"
แกรนท์ยิ้มกว้าง

"พี่ขอโทษ..." ผมได้แต่ก้มหน้าพูดอยู่อย่างนั้น...
PostPosted: Fri Dec 15, 2006 4:44 am


พฤหัส 21 ก.ค. 1378 อากาศอบอ้าว

ติ๊ด ตี ตี่ ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ...

เสียงมือถือดังอยู่ข้างหมอน ผมสะลึมสะลือแล้วยกมันขึ้นมาดูว่าใครโทรมา
ชื่อของเธอปรากฏขึ้นบนจอ ผมลังเลระหว่างปุ่มสีเขียวกับสีแดงบนแผงปุ่ม แต่แล้วก็ตัดสินใจกดปุ่มสีแดง เสียงร้องเงียบไปในทันใด ผมยังไม่อยากได้ยินเสียงของเธอ ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้ง ชื่อเดิมปรากฏบนจอ ผมกดปุ่มปิดเครื่องทันที

แกรนท์ไม่ได้ไปทำงาน เจ้าตัวแสบว่างานที่ทำอยู่เป็นงานช่วงพิเศษ แล้วงานก็หมดระยะเวลาจ้างแล้ว มันว่าจะออกไปหางานทำพรุ่งนี้ ระหว่างที่เราคุยกัน เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดัง แกรนท์กำลังจะเดินไปรับแต่ผมคว้าแขนน้องเอาไว้ ดวงตาสีฟ้ามีแววประหลาดใจ ผมส่ายหน้าช้าๆ แกรนท์จึงยืนนิ่ง โทรศัพท์ดังต่อเนื่องอยู่พักหนึ่งจนเครื่องตอบรับอัตโนมัติทำงาน

"ฮัลโหล แรนซ์ นายตัดสายชั้นทำไม? ไม่มีใครอยู่บ้านเหรอวันนี้? อยากโทรมาถามหน่อยว่ารู้มั้ยว่าโซลท์ไปไหน? ชั้นโทรเข้ามือถือกับเบอร์บ้านเขาแล้วแต่ไม่มีคนรับ เขาไม่ได้บอกชั้นว่าจะออกไปไหน เลยลองโทรมาถามนายดูว่าเขาอยู่ที่วงด้วยรึเปล่า ถ้ารู้ที่อยู่เขาก็ช่วยโทรกลับมาบอกชั้นหน่อยนะ ชั้นมีอะไรจะให้เขา แค่นี้นะ เจอกันที่บาร์วันเสาร์เวลาเดิมจ้ะ"

ผมกับแกรนท์นิ่งเงียบ มีแต่เสียงสัญญาณที่ถูกตัดสายไปแล้วดังทำลายความเงียบในห้อง แกรนท์เดินไปที่เครื่องแล้วลบข้อความที่ฝากไว้ พลางพูดกับผม
"วันเสาร์ชั้นจะไปเอง"
"อะไรนะ?" ผมหัวหมุน น้องชายผมคิดจะทำอะไร???
"วันเสาร์ชั้นจะไปที่บาร์แทนพี่เอง"
"แต่..."
"พี่พักอยู่บ้านเถอะ เหนื่อยนักก็ควรพักไม่ใช่เหรอ"
ผมชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
"ขอบใจนะแกรนท์" ผมแค่นหัวเราะ "อ่อนแอเหลือเกินนะพี่ชายนายเนี่ย"
"ทุกคนก็มีช่วงเวลาที่อ่อนแอกันทั้งนั้นแหละพี่"
ผมเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
"กลายเป็นคนจ้าวคารมไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
แกรนท์หัวเราะแล้วแลบลิ้นเผล่
"จำมาจากลุง"

R a n c e
Crew


R a n c e
Crew

PostPosted: Fri Dec 15, 2006 11:39 am


ศุกร์ 22 ก.ค. 1378 ร้อนนอน-สต๊อป

วันนี้ออกมาหางานทำพร้อมกับเจ้าตัวแสบ แกรนท์นำทางผมไปยังร้านเค้กร้านหนึ่ง มันอ้างว่าตอนนี้กำลังเปิดรับพนักงานเสิร์ฟกับพนักงานต้อนรับอยู่อย่างละ 1 ตำแหน่ง รายได้จ่ายให้เป็นรายวัน เงินดีพอใช้ได้ ทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น มีอาหารให้พนักงานเสร็จสรรพ เป็นร้านเปิดใหม่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ออกมาจากซอยบ้านแล้วเดินไปตามถนนอีกสามบล็อกก็ถึงร้านที่ว่าแล้ว ผมเงยหน้ามองชื่อร้าน "Sweet Moment" ชื่อหวานซะ... เดี๋ยวนี้เด็กวัยรุ่นนิยมแบบนี้กันรึไงหว่า

เจ้าของร้านรับเราทั้งคู่เข้าทำงาน หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อของพนักงานแล้ว แกรนท์ก็เอาหวีออกมาแล้วขยี้หัวผม
"เฮ้ย แกทำอะไร"
"อย่าทำทรงแบบไปแสดงคอนเสิร์ตดิพี่ สาวไม่กรี๊ด การจะเรียกลูกค้าเนี่ยนะ หน้าตาหล่อเป็นต่อกว่ากันเยอะ"
ผมกลอกตาพร้อมถอนหายใจ "อยากจะทำอะไรก็ทำ"

แกรนท์ไปเป็นพนักงานต้อนรับ ส่วนผมเป็นพนักงานเสิร์ฟ งานดำเนินราบรื่นดีจนกระทั่งผ่านไปครึ่งวัน เจ้าตัวแสบวิ่งโร่มาขอเปลี่ยนหน้าที่กับผม อ้างว่ายิ้มจนปากจะฉีก เมื่อย ขอทำหน้าที่เสิร์ฟแทนดีกว่า
"แต่พี่ไม่---"
"เหอะน่า แค่โปรยยิ้มหวานๆ ชั้นแต่งหล่อให้พี่แล้วนี่ มั่นใจหน่อยเด้ ยิ้มหวานๆเหมือนที่ชอบโปรยให้เจ๊นั่นแหละ"
ผมสะดุดกึก... จะพูดเรื่องนี้ทำไมวะ คนยิ่งดราม่าอยู่


"เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าฉีกยิ้มทั้งวันมันเมื่อยขนาดนี้" ผมบ่นอุบพลางเอามือนวดแก้ม
"เออสิ รู้ซะมั่งว่ามันเหนื่อยเวลายิ้มต้อนรับลูกค้า" แกรนท์เกทับ
"บ๊ะ ได้ทีสั่งสอนใหญ่เลยนะเอ็ง" ว่าพลางเอามือยันหัวเจ้าตัวแสบ
เราเดินกลับบ้าน แต่ก็ต้องหยุดเท้าพอเห็นรถคอร์เวทเปิดประทุนสีดำที่คุ้นตาจอดอยู่หน้าบ้าน เจ้าของรถยืนพิงอยู่ข้างตัวรถ ขมวดคิ้วมุ่น ผมรีบหลบหลังกำแพงตรงหัวเลี้ยวก่อนถึงตรอกเข้าบ้าน แกรนท์หันมามองผมหน่ายๆ ถอนหายใจแล้วส่ายหัวไปมา
"ก็ไปคุยดิ้ เกิดป๊อดอะไรเอาตอนนี้ล่ะ"
"ไม่ได้ป๊อด แต่ยังไม่ได้ทำใจเฟ้ย" ผมถลึงตามองน้องชาย
"ก็ป๊อดแหละว้า... ก็ได้ๆ ชั้นไปรับมือเจ๊ก่อนให้ก็ได้ ชิ้วๆ ไปหาที่รอไป๊ เดี๋ยวเรียบร้อยแล้วจะโทรไปเรียก" เจ้าตัวแสบสะบัดมือไล่ผมก่อนเดินตรงดิ่งไปหาเธอ

ผมไม่มีทางเลือกเลยไปเดินเล่นที่ตลาด เอเดรียน่ามาทำไม...? มาหาเรา...? หรือมาต่อว่าเรื่องที่ตัดสายเธอไปเมื่อวาน...? หรือว่าโกรธที่เราไม่ติดต่อกลับ...? ความกังวลสารพัดรังควานจิตใจ เดินเล่นได้ไม่นานเสียงเรียกเข้ามือถือก็ดัง เจ้าน้องตัวดีโทรมาเรียกกลับบ้าน
"เธอว่าไง?"
"อ้อ ไม่มีอะไร เจ๊แค่แวะเอาเค้กมาฝากระหว่างทางกลับบ้าน" เสียงเคี้ยวหงุบหงับดังลอดมาตามสาย
"แค่นั้น?" ผมแอบโล่งใจที่เธอไม่ได้ต่อว่าอะไรผม แต่อีกใจหนึ่งก็เสียใจที่เธอไม่ได้ถามอะไรถึงผม
"แค่นั้นแหละ กลับมาเร็วๆนะพี่ กลับช้าชั้นกินหมดไม่รู้ด้วย" กำลังจะตอบแต่เสียงปลายสายก็ตัดไปแล้ว
"ไอ้ตะกละ" ผมถอนหายใจแรงๆหนึ่งทีแล้วรีบดิ่งกลับบ้าน
PostPosted: Fri Dec 15, 2006 12:35 pm


เสาร์ 23 ก.ค. 1378 ใจร้อนรุ่มเป็นกังวล

"เป็นไงมั่ง?"
ผมทักทายแกรนท์ ใบหน้าเจ้าตัวซับสีแดงระเรื่อ ท่าทางจะดื่มมาหนักพอสมควร
"ก็ดี เหล้าอร่อยดี"
เจ้าตัวแสบว่าพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก แล้วจะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย

ตามที่แกรนท์บอก วันนี้มันจะไปดื่มที่บาร์แทนที่ผม มีแผนอะไรในใจก็ไม่รู้
เมื่อเช้าเราทั้งคู่ไปทำงานที่ร้านเค้กร้านเดิมตามเวลาทำงานปกติ พอเลิกงานปุ๊บเจ้าตัวแสบก็ตรงไปยังบาร์ ส่วนผมก็กลับมาบ้าน ได้แต่ลุกๆนั่งๆ เดินวนไปวนมาอย่างเป็นกังวล ไม่ได้ๆ... ต้องรวบรวมสมาธิ... มือเอื้อมไปหยิบกระดาษโน๊ตที่โต๊ะวางของใกล้ๆโซฟามาไล่สายตาดู เพลงที่แต่งค้างไว้... ไม่เดินหน้าตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว ผมหยิบปากกาขึ้นมาเติมตัวโน๊ต ที ซอล โด ... ห้าโมง ป่านนี้น่าจะอยู่ที่ร้านกันครบแล้ว... เร ลา มี ฟา ... หกโมง จะคุยอะไรกันอยู่นะ ... ซอล ... โว้ยยยยย ไม่ตงไม่แต่งมันแล้วไอ้เพลงบ้าๆเนี่ย!!!!

ไปๆมาๆเลยกลับมาเดินวนไปวนมาเหมือนเดิม นี่ชั้นกำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย!!!
สายตาเหลือบมองนาฬิกา เข็มวินาทีเดินไปทีละช่อง ทีละช่อง... หนึ่งทุ่ม...
ผมทิ้งตัวเองลงนอนพาดบนโซฟา เปิดทีวีดูฆ่าเวลาไปก็ได้ อะไรมั่งเนี่ย... ข่าว... ละคร... วาไรตี้... เกมโชว์... ไม่เห็นมีอะไรน่าดูสักอย่าง นิ้วกดปุ่มปิดทีวีโดยอัตโนมัติ
ผมซุกหน้าลงบนหมอนใบเล็กบนโซฟา ไอ้น้องเวร ทำไมไปนานนักวะ ... ไอ้แรนซ์เอ๊ย... ไอ้ผู้ชายไม่ได้เรื่อง... แค่นี้ก็ท้อแล้วรึไง...
สายตาจับจ้องไปยังเข็มวินาที ที่เดินต่อไปทีละช่อง ทีละช่อง ทีละช่อง... ความง่วงเริ่มจู่โจมทุกขณะที่เห็นวินาทีเดินผ่านไป...

ออด ออด

ผมสะดุ้งตื่นจากนิทรา สายตาหันไปมองนาฬิกา ... ห้าทุ่ม... ผมรีบกระโดดแผล็วไปยังประตู แล้วก็เปิดมาเจอหน้าน้องชายตัวเองยืนยิ้มกรุ้มกริ่ม

หลังบอกว่าเหล้าอร่อย แกรนท์ก็เดินเซผ่านผมไป ผมปิดประตูแล้วเดินตามหลังน้องชาย
"เอเดรียน่าน่ะ เป็นไงมั่ง"
"สวยเหมือนเดิม" เจ้าตัวแสบฟุบลงบนโซฟา
"เฮ้ย เมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้วโว้ยไอ้น้องเวรนี่ หมายถึงเค้าเป็นยังไงบ้างวะ พูดอะไรเรื่องที่แกไปแทนพี่รึเปล่า"
"ม่ายยย... เอิ๊ก... แค่งงๆว่าทามมายถึงเป็นช้าน ... แทนที่จะเป็นเพ่ อึ้ก" ท่าทางมันจะอาการหนัก อย่าอ้วกนะเฟ้ย
"เหรอ... แล้วโซลท์?"
".... ลุงก็... เหมือนเดิม...." น้องชายตัวดีซุกหน้าลงบนหมอน
"วันนี้คุยอะไรกันมั่ง?" ผมถามพลางเดินไปที่ครัวเพื่อจะหยิบน้ำมาให้น้องดื่ม เจ้าตัวแสบไม่ตอบ "แกรนท์?" ผมเดินกลับออกมาพร้อมน้ำในมือ มองไปที่ร่างน้องที่นอนก่ายบนโซฟาด้วยท่าทุเรศลูกตา "แกรนท์.... นี่แก... หลับไปแล้วเรอะ..."
มีเสียงกรนดังมาเป็นคำตอบผม ผมถอนหายใจเหนื่อยหน่ายก่อนลากน้องไปโยนไว้บนเตียงมัน ผมเดินออกมาแล้วถอนหายใจอีกรอบ คิดว่าวันนี้คงต้องนอนหลับเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ค่อยถามเจ้าตัวแสบเอาก็ได้ เฮ้อ ไม่ได้เรื่องเลยให้ตายเถอะ

R a n c e
Crew


R a n c e
Crew

PostPosted: Sun Dec 17, 2006 12:15 pm


อาทิตย์ 24 ก.ค. 1378 ร้อนกาย แต่ร้อนใจมันหนักหนายิ่งกว่า

ผมตื่นแต่เช้า เดินไปเคาะประตูเรียกแกรนท์ แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบ สงสัยมันจะเมาค้าง
พยายามเคาะประตูเรียกอีกหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ตื่น... วะ แล้วชั้นจะได้รู้มั้ยเนี่ยว่าแกไปป่วนอะไรสองคนนั่น
"เฮ้ย แกรนท์ ตื่นยังวะ!?"
เงียบ ไม่มีเสียงตอบ
ดีนะเนี่ยที่วันอาทิตย์ร้านหยุด เฮ้อ ผมส่ายหน้าอย่างระอา รอมันตื่นก่อนก็ได้

สุดท้ายกว่าเจ้าตัวแสบจะโงหัวขึ้นมาได้ก็บ่ายสอง แถมกว่าจะคุยรู้เรื่องก็ปาเข้าไปบ่ายสาม นี่แสดงว่ามันแดกเหล้าเข้าไปเยอะมากเลยนะเนี่ยเมื่อวาน ไปกินฟรีให้เอเดรียน่าจ่ายเงินแล้วยังจะไม่เกรงใจเค้าอีก ไอ้น้องเวรตะไลนี่
"ไง หายเมาค้างยัง?" ผมเอ่ยขึ้นก่อนพอเห็นมันเดินกุมขมับมานั่งที่โซฟา ในขณะที่ผมจัดการเอาข้าวมาวางให้มันบนโต๊ะกินข้าว "เอ้า นี่ กินข้าวซะ กินแต่เหล้าเดี๋ยวมันก็กัดกระเพาะพรุนหรอก แล้วก็นี่ ยาแก้ปวดหัว"
"อืม... ขอบคุณนะพี่..." เจ้าตัวแสบมานั่งกินข้าว เป็นโอกาสดีที่จะถามเรื่องเมื่อวาน ผมเลยนั่งที่เก้าอี้อีกด้าน จ้องหน้ามัน นั่งมองมันกินข้าวอยู่พักหนึ่ง

"เมื่อวานเอเดรียน่าพูดแต่เรื่องโซลท์รึเปล่า?" ผมถามออกไป แกรนท์สะดุ้งแล้วสำลักข้าว
"แค่ก แค่ก แค่ก!!! อุ๊บ นั่งเงียบๆแล้วจู่ๆก็โพล่งถามอะไรเนี่ยพี่ ตกใจหมด แค่ก" ว่าพลางเอามือทุบอกตัวเองเบาๆแล้วกระดกน้ำเปล่า "แค่ก" เอ้า เอาเข้าไป สำลักน้ำอีก
"อย่ารีบสิ" ผมลูบหลังแกรนท์ เฮ้อ อายุจะสิบเก้าแล้วก็ยังไม่โตในสายตาผม =_=
"ว่าไง เมื่อวานมีอะไรบ้าง" ผมคะยั้นคะยอถามอีก เจ้าตัวแสบท้าวคางมองหน้าผมก่อนถอนหายใจแล้วตอบยาวเหยียด
"หายใจเข้าออกเป็นเจ๊เชียวนะพี่... เมื่อวานก็ไม่มีอะไรอ่ะ ดื่มๆ คุยๆกันเหมือนปกติ ชั้นก็คุยเล่นกับสองคนนั้น อืม... เจ๊ก็เหมือนเดิม แต่ดู... สดใสขึ้นล่ะมั้ง ส่วนลุง โคตรจะเหมือนเดิม นั่งดื่มเงียบๆซะเป็นส่วนใหญ่ มีแต่เจ๊ที่เล่าเรื่องนู้นนี้ที่เจ๊พบประจำวันให้ฟัง กับชั้นที่คุยเล่นกะเจ๊ ตาลุงนั่นขอตัวกลับก่อนด้วย บอกว่าเพลีย จะกลับไปนอน หลังลุงกลับไปไม่นานเจ๊ก็ขอกลับบ้านอ่ะ"
"แค่นั้นน่ะเหรอ?" ผมถาม
"แค่นั้น... เอ๊ะ เดี๋ยวนี้ใช้คำนี้ถามบ่อยนะพี่" แกรนท์ขมวดคิ้วยุ่ง
"อ้อ อืม... ไม่มีอะไร ขอบใจที่ไปแทนพี่ แกกินข้าวต่อเหอะ" ผมตัดบท

แกรนท์กำลังปิดบังผมอยู่ คิดว่าพี่แกจะไม่รู้รึ เลี้ยงแกมาตั้ง 14 ปีเต็มทำไมจะไม่รู้นิสัยแกหึ?
เอเดรียน่าคงมีความสุขมากสินะ คงเอาแต่พูดคุยกับโซลท์ใช่มั้ย เรื่องแค่นี้ถึงเป็นคนทึ่มๆอย่างพี่ก็พอเดาออกล่ะน่า
แต่ก็ขอบใจที่ไม่บอกพี่นะ... การรู้ความจริงบางครั้งมันก็เจ็บปวดดีกว่าไม่รู้ แกคิดแบบนี้ใช่มั้ยล่ะแกรนท์


หลังจากกินข้าวกันเสร็จ ผมก็เร่งให้เจ้าน้องชายตัวแสบรีบแต่งตัวออกจากบ้าน เพราะนี่มันก็เย็นมากแล้ว พวกเรารีบไปสั่งดอกลิลลี่สีขาวที่ร้านดอกไม้ในจัตุรัส ดอกไม้ที่แม่ชอบ และดอกโบตั๋นที่พ่อชอบให้พ่อ แกรนท์ควบมอเตอร์ไซค์คันเก่งโดยมีผมนั่งซ้อนท้าย รีบบึ่งไปยังสถานที่แห่งนั้น... สถานที่ที่พ่อกับแม่หลับใหลอยู่... วันนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของพวกท่าน...

ผมกับแกรนท์ค่อยๆวางดอกไม้ลงหน้าหลุมศพของท่านทั้งสอง

พ่อครับ แม่ครับ แม้ว่าพ่อกับแม่จะจากพวกผมไปนานถึง 14 ปีแล้ว แต่พวกผมก็ยังคิดถึงพ่อกับแม่เสมอ อะไรๆก็คงดีขึ้นกว่านี้มากนักถ้าทั้งคู่ยังอยู่กับเรา ผมคงมีที่ปรึกษาปัญหาได้ พ่อครับ แม่ครับ เมื่อตอนที่พวกท่านคบกัน เคยมีปัญหาปวดร้าวใจเหมือนลูกคนนี้มั้ยครับ ผมหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้เสียที คนที่ผมห่วงใยทั้งคู่คบกันอยู่ คนหนึ่งเป็นเพื่อนสนิท อีกคนเป็นหญิงสาวที่ผมรักสุดหัวใจ ผมควรจะดีใจที่เห็นพวกเขาได้คบกัน ผมควรจะดีใจที่เห็นเธอคนนั้นมีความสุข แต่ผมก็เปล่า ผมพยายามแล้วครับ พยายามที่จะมีรอยยิ้มบนใบหน้า พยายามที่จะมีความสุขเมื่อเห็นคนที่เรารักมีความสุข แต่ทำไมมันถึงได้เจ็บปวดแบบนี้ล่ะครับ?

ผมจะรู้สึกแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนครับ? มันเจ็บปวดเหลือเกิน แต่ผมต้องฝืนทนต่อไปใช่ไหมครับ? แต่ผมจะทนเก็บความเจ็บปวดนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน...
ผมจะพยายาม ผมจะพยายาม อย่าได้สมเพชลูกคนนี้เลยนะครับที่อ่อนแอ... ผมขอโทษถ้าผมทำให้พวกท่านทั้งคู่ต้องผิดหวัง... แต่ผมจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเหมือนเดิมครับ...
รักพ่อกับแม่มากครับ

.....

จริงสิ คริสบอกว่าผู้จัดการสั่งให้แต่งเพลงให้เสร็จแล้วเอาไปให้ดูวันอังคารนี่นา งั้นวันนี้พอกลับไปบ้านก็แต่งให้เสร็จไปละกัน จะได้ไม่คิดมากด้วย ผมคิดอย่างนั้นตอนนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แกรนท์กลับบ้าน ความรู้สึกวันนี้หนักอึ้ง... ผมหวังว่าทุกอย่างจากนี้ไปจะผ่านไปได้ด้วยดี ให้กำลังใจผมด้วยนะครับ พ่อ.. แม่..
PostPosted: Mon Dec 18, 2006 5:35 am


จันทร์ 25 ก.ค. 1378 เจ็บแปลบ

ตื่นเช้าไปทำงานเหมือนเดิม เห็นแกรนท์ซัดยาแก้ปวดหัวก่อนออกจากบ้าน ไม่รู้ว่ายังเมาค้างหรือปวดหัวอยู่กันแน่?

ผมคิดผิด... คิดผิดมากๆที่ออกมาทำงานวันนี้...
เธอกับเขา มาที่ร้าน...
โซลท์กับเอเดรียน่า มานั่งกินเค้กที่ร้าน... ผมรีบหลบมาที่หลังร้านแทบไม่ทัน แกรนท์ทักสองคนนั่นอย่างอารมณ์ดี หวังว่าเจ้าตัวแสบจะไม่ได้ปากมากเรื่องที่ผมก็มาทำงานที่นี่ออกไปด้วยหรอกนะ...
ผมขอเป็นเด็กล้างจาน หรืองานอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องออกไปเจอหน้าลูกค้าระหว่างที่โซลท์กับเอเดรียน่ายังนั่งกินเค้กอยู่ เอเดรียน่าคงจะขอให้โซลท์พาเธอมากินเค้กแน่ๆ เธอชอบลองทานอาหารรสชาติใหม่ๆ เอเดรียน่าเป็นคนเบื่อง่าย ชอบลองของใหม่ตลอดเวลา ร้านสวีท โมเมนต์เป็นร้านเปิดใหม่ แถมเป็นร้านเค้ก เอเดรียน่าชอบกินของหวานเป็นชีวิตจิตใจ ไม่แปลกที่เธอจะลากโซลท์มาลองกินเค้กที่นี่... แต่คิดไปก็แปลกดี โซลท์ไม่ชอบของหวาน หมอนั่นจะสั่งอะไรกินจากที่นี่ล่ะเนี่ย น้ำส้มเรอะ? นึกไปแล้วก็เจ็บแปลบในใจ อยากให้ผู้ชายที่นั่งเคียงข้างเธอคนนั้นเป็นตัวของผมเอง แต่มันก็เป็นได้เพียงแค่ความฝันลมๆแล้งๆ...

"พี่ สองคนนั่นไปแล้ว"
ผมสะดุ้ง แกรนท์โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ทำเอาความคิดผมสะดุดกึก
"ออกไปทำงานหน้าร้านต่อได้แล้วแหละพี่"
"ไม่จำเป็นหรอก พี่จะลาออกวันนี้แหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้เซไนล์ก็กลับมาแล้ว ต่อไปคงต้องไปซ้อมดนตรี คงไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้วล่ะ" ผมยิ้มให้น้อง แกรนท์มองผม ก่อนถอนหายใจ
"หายไวๆทีเถอะ พี่หายหน้าไปนานเจ๊เค้าเป็นห่วง ตะกี๊เจ๊เค้าก็ถามถึง"
"เอ๊ะ? จริงง่ะ?" ผมตาโต
"จริง เอ้าๆ ไปทำงานได้แล้ว"แกรนท์ดันหลังผม

ถึงเอเดรียน่าจะเป็นห่วงผม แต่คนที่เธอคิดถึงอยู่เสมอน่ะ ไม่ใช่ผมนี่นา
คงต้องเริ่มทำใจแล้วสิ จะให้หลบหน้าเอเดรียน่าตลอดไปก็คงไม่ได้หรอก...

แต่งเพลงยังไม่เสร็จดีเลย ถ้าวันนี้ทำไม่เสร็จต้องโดนผู้จัดการบ่นหูชาแหงๆ

R a n c e
Crew


R a n c e
Crew

PostPosted: Mon Dec 25, 2006 9:07 am


อังคาร 26 ก.ค. 1378 ความพัฒนาการทางจิตใจ... นิดนึง...?

"พี่~!!! พี่โว้ย~!!!"
"..."
"พี่~! ไอ้พี่เวร~!!! ไอ้พี่บ้า~!!! ไอ้พี่เฮงซวย~!!!"
"โว้ย! เป็นบ้าอะไรของมึงวะไอ้แกรนท์!!!"

ผมเปิดประตูห้องนอนพรวดออกไป ไอ้น้องเวรนี่มันมาเคาะ ทุบ เตะประตูเรียกผมไม่ยอมหยุดตั้งกะ 5 นาทีก่อนแล้ว
"อ้าว ก็ไหนว่าวันนี้จะไปวง"
"เดี๋ยวไป"
ผมตอบเจ้าน้องจอมยุ่ง ทำไมวันนี้ไม่ยอมไปทำงานวะ
"แกนั่นแหละ ไม่ไปทำงานร้านเค้กต่อเหรอวะ? เดี๋ยวมันก็จะเริ่มเวลางานแล้วนี่!"
แกรนท์ยืนพิงกำแพง จ้องหน้าผม
"เรื่องของชั้นน่ะช่างเหอะน่ะ เดี๋ยวค่อยออกไปทำงานก็ได้ ... พี่น่ะ ยังไม่อยากเจอหน้าลุงใช่มั้ยล่ะ?"
บ้าชะมัด ทำไมเจ้าน้องบ้านี่มันต้องสู่รู้ไปหมดทุกอย่างด้วยนะ
"ไม่ใช่ว้อย เพลงที่แต่งยังไม่เรียบร้อยต่างหาก ไม่ทำให้เรียบร้อย เดี๋ยวผู้จัดการเอาพี่ตายแน่"
แกรนท์เหลือบตามองผมนิดหนึ่ง แล้วส่ายหน้าไปมาอย่างยอมแพ้
"ก็ได้ๆ เชื่อหน่อยก็ได้ งั้นชั้นไปทำงานดีกว่า" เจ้าตัวแสบเดินไปเข้าห้องตัวเองแต่ก็ยังไม่วายหันมาแว้งกัดทิ้งท้าย "อย่าไปซึมที่วงต่อหน้าลุงนั่นละกัน เสียฟอร์ม"

พอไปถึงวงกลับไม่เจอใคร ยกเว้นแต่คริสที่ทักทายผมอารมณ์ดี
"ไง เฮียแรนซ์ มาเช้าจัง" ผมถามถึงคนอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่าทั้งเซไนล์กับโซลท์ติดธุระอยู่ เซไนล์เพิ่งออกจากสนามบิน ผู้จัดการขับรถไปรับ ส่วนโซลท์แค่โทรมาบอกว่าจะมาสายหน่อยสำหรับวันนี้ คริสบ่นไม่ยอมหยุดที่ทุกคนปล่อยให้ตัวเองแกร่วซ้อมอยู่คนเดียวตั้งแต่เช้าตรู่... แล้วนายจะมาเช้าตรู่ทำไมล่ะฟะ?

"ก็นึกว่าเซนี่จะมาเช้า แต่เครื่องดันดีเลย์อ่ะดิ แถมเฮียโซลท์แกก็ดันมาสาย ปกติก็ออกจะมาเช้า ไม่รู้เป็นไรของเฮีย ท้องเสียกะทันหันล่ะมั้ง" คริสบ่นไปตามประสา ผมไม่ว่าอะไร... โซลท์อาจจะวุ่นอยู่กับงานอย่างอื่นอยู่ก็ได้ ผมเลยเอาเพลงที่แต่งมาส่งให้คริสดู แล้วปรึกษากันไปพลางๆระหว่างรอคนมาครบ


เลิกซ้อมวันนี้ค่อนข้างดึกนิดหน่อย... สองทุ่ม... เลทกว่าปกติสองชั่วโมง... ผมเดินกลับบ้านอย่างเหนื่อยอ่อน โซลท์มาถึงวงตอน 11 โมง ส่วนเซไนล์มาถึงตอนบ่าย เพราะงั้นกว่าจะได้ซ้อมก็ปาไปบ่ายสองกว่า เพลงที่เสนอให้ผู้จัดการผ่านไปด้วยดี มีที่ต้องแก้ไขนิดหน่อย ซึ่งคนอื่นๆในวงก็ช่วยกันแก้และลองซ้อมดูเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างวันนี้ราบรื่น ยกเว้นถ้าผมไม่บังเอิญเหลือบไปเห็นรอยจูบที่ซอกคอของโซลท์... ไม่แปลกที่หมอนั่นแต่งตัวค่อนข้างมิดชิด... ที่มาสายวันนี้ก็คงเพราะพาเอเดรียน่ากลับไปบ้านก่อนมาซ้อมที่วงล่ะมั้ง...

ผมว่าอาการของผมค่อนข้างดีขึ้นมานิดหน่อย... เพราะเริ่มเคยชินกับอาการเจ็บแปลบในอกมากขึ้นรึเปล่านะ?
PostPosted: Mon Dec 25, 2006 9:37 am


พุธ 27 ก.ค. 1378 ร้อนอีกแล้ว

วันนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ ไปซ้อมดนตรีตามปกติ เลิกซ้อมตอน 5 โมงเย็น ผู้จัดการบอกว่ามีผู้ว่าจ้างต้องการจัดแสดงคอนเสิร์ตและเชิญวงเราไปแสดงในงานด้วย รู้สึกจะเป็นกลางเดือนหน้า มีเวลาซ้อมประมาณสองอาทิตย์กว่าๆ ซึ่งผู้จัดการเอาเรื่องมาปรึกษาพวกเราก่อนจะไปตกลงกับผู้ว่าจ้างวันพรุ่งนี้ จริงๆก็ไม่จำเป็นต้องปรึกษานักก็ได้... ไงๆทางบริษัทก็มีหน้าที่ตัดสินใจอยู่แล้ว การปรึกษาพวกเรามันก็แค่ตามมารยาท

แกรนท์โทรมาบอกว่าวันนี้จะไปค้างที่อื่น ไม่กลับบ้าน หึ ไปคั่วสาวอีกล่ะสิ

R a n c e
Crew


R a n c e
Crew

PostPosted: Thu Mar 01, 2007 12:23 am


พฤหัส 28 ก.ค. 1378 เป็นงง

ช่วงนี้กะว่าจะหยุดเขียนซะหน่อย แต่วันนี้กลับมีเรื่องที่ต้องเขียน...
อืม จริงๆ ถ้าผมเขียนไดอารี่จนจบเล่มนี่คงเอาไปแต่งละครน้ำเน่าได้เลยนะเนี่ย หนทางหากินใหม่

วันนี้ซวยตั้งแต่หัววัน เพราะเจ้าน้องเวรนั่นตัวเดียว
รอยมือแดงประทับแนบสนิทชิดแน่นอยู่บนแก้มซ้ายของผม
เอาล่ะ จะเล่าให้ฟังละกันนะ

เมื่อวาน แกรนท์ไปข้างนอก ไม่รู้ว่ามันมีญาณวิเศษหรือรู้ตัวก่อนแล้วก็ไม่รู้แหละ เจ้าบ้านั่นเลยหนีไปค้างที่อื่น ผมตื่นเช้ามาเพราะมีเสียงคนมาโวยวายอยู่หน้าบ้าน เป็นเสียงผู้หญิง ฟังไม่ได้ความนักหรอก ผมลองเลิกผ้าม่านขึ้นนิดหนึ่งเพื่อมองผ่านหน้าต่างดูว่าใครที่ไหนมาทำเสียงเอะอะโวยวาย ผู้หญิงคนที่ว่ายังเป็นสาวรุ่น หน้าตาสะสวย แต่งตัวน่ารัก เธอกำลังกรีดร้องอะไรสักอย่างอยู่ พร้อมน้ำตานองหน้า ผมยิ่งเป็นโรคแพ้น้ำตาผู้หญิงก็เลยเผลอเปิดประตูออกไปโดยไม่ทันคิด และเดินเข้าไปใกล้รั้วเพื่อที่จะถามเธอว่าทำไมถึงได้มาร้องห่มร้องไห้อยู่หน้าบ้านผม แต่แล้วฝ่ามืออรหันต์ของเจ้าหล่อนถูกเหวี่ยงมาจากไหนก็ไม่รู้ ตบป้าบเข้าให้ที่แก้มผมจนหน้าหัน เล่นเอาผมงงเป็นไก่ตาแตก

"นายเป็นใคร ไปให้พ้นนะ แกรนท์อยู่ไหน!?" อ้าว เฮ้ แม่สาวน้อย จะหาคนทำไมต้องตบหน้าคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วยล่ะแม่คุณ
"เอ้อ... แกรนท์ไม่อยู่" ผมอ้ำอึ้งตอบไป "แล้วทำไมต้องมาตบหน้าผมด้วยเนี่ย"
"เพราะนายไม่ใช่แกรนท์" เดี๋ยวนะ ผมว่ามันผิดประเด็นแล้วล่ะ คนที่ควรโดนตบต้องเป็นไอ้น้องเวรนั่นไม่ใช่เรอะ???
"เจ้าบ้านั่นไปทำอะไรให้ล่ะ?" ผมถอยห่างออกจากรั้วเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยของใบหน้า
"แกรนท์... แกรนท์น่ะ..." น้ำตาร่วงหนักกว่าเดิม... ผมทำอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย? "แกรนท์น่ะ ไหนบอกว่าชอบชั้นไง... แล้วทำไมเมื่อวานนี้ไปกับยัยคาเรนล่ะ ฮือ..."

โอเคครับ ปัญหาโลกแตกที่น้องชายผมชอบก่อนี่เอง นี่คงฟันแล้วทิ้งสาวน้อยคนนี้สิท่า
"เอ่อ... ชั้นว่าวันนี้เธอกลับไปก่อนเถอะ... เจ้าบ้านั่นไม่อยู่หรอก... เมื่อวานบอกว่าจะไปค้างที่อื่นน่ะ" อึ้ก ท่าทางจะไปจี้ใจดำเธอแล้วสิ เพราะสาวเจ้าร้องไห้เป็นน้ำตกเลยคราวนี้ "อ่ะ... เอ้อ... คือ..."
ผมได้แต่ยืนงกๆเงิ่นๆทำอะไรไม่ถูก แต่จู่ๆ แม่สาวน้อยกลับนิ่งไปแล้วเดินกลับไปแต่โดยดี
... ผู้หญิงนี่เข้าใจยากชะมัด...


คริสหัวเราะยกใหญ่เมื่อเห็นรอยมือที่หน้าผม
"ฮะๆๆ โอ๊ย เฮีย! เฮียไปหลีสาวที่ไหนจนเค้าเคืองใจเนี่ย! ฮะๆๆ หรือว่าไปแซวเค้าจนเค้าต้องหุบปากเฮียด้วยฝ่ามือ? ฮ่าๆๆ โอ๊ย ปวดท้อง!"
เออๆ ขำเข้าไป ขำเข้าไป ตลก ตลกตายล่ะ
"คริส ถ้าแกยังไม่หุบปาก ชั้นจะเตะแกออกจากวง" ผมแยกเขี้ยว
เจ้าตัวดีรีบนั่งท่าเรียบร้อย "ครับผม! ไม่หัวเราะแล้วคร้าบ... คิก" ดูมัน... เป็นร่างแยกไอ้แกรนท์รึไงเนี่ย...
เซไนล์ทำหน้าเบื่อหน่าย แต่ก็มีน้ำใจเอายามาให้ผมทา ส่วนโซลท์ไม่ว่าอะไรนอกจากออกความเห็นว่าให้เตือนๆแกรนท์ว่าอย่าทำตัวเหลวไหลไปมากกว่านี้ นั่นสิ ช่วงนี้เพราะผมมัวแต่กลุ้มเรื่องเอเดรียน่าจนไม่ค่อยได้ดูแลน้องรึเปล่านะ?

เขียนไดอารี่ของวันนี้เสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าแล้ว เจ้าตัวแสบยังไม่กลับบ้าน กลับมาเมื่อไหร่จะจัดการให้น่าดูชมเชียว แก้มผมยังไม่หายบวมดีเลย

หวังว่าพรุ่งนี้มันจะกลับบ้านนะ วันนี้ผมลองโทรเข้ามือถือมันตั้งหลายครั้งแต่แกรนท์ก็ปิดเครื่องทั้งวันเลย

ปวดหัวชะมัด มันจะอะไรนักหนาเนี่ย...
Reply
[ [ Character Journal ] ]

Goto Page: 1 2 [>] [»|]
 
Manage Your Items
Other Stuff
Get GCash
Offers
Get Items
More Items
Where Everyone Hangs Out
Other Community Areas
Virtual Spaces
Fun Stuff
Gaia's Games
Mini-Games
Play with GCash
Play with Platinum