Welcome to Gaia! ::

Reply [ [ Character Journal ] ]
[Laxis Diary][Thai] My Owner Goto Page: 1 2 [>] [»|]

Quick Reply

Enter both words below, separated by a space:

Can't read the text? Click here

Submit

Laxis
Vice Captain

PostPosted: Sat Jun 10, 2006 1:49 pm


เสาร์ที่ 10 มิ.ย. 1379 ฝนตก..

มาอยู่บ้านโซลท์ได้เดือนนึงแล้ว แผลเกือบหายสนิทแล้วล่ะ
โซลท์ออกไปข้างนอกทุกวันเลย ส่วนใหญ่ก่อนเที่ยงกลับมาอีกทีก็เกือบๆ6โมง ไม่ก็ดึกไปเลย แปลกจิง เค้าไปไหนของเค้านะ
สังเกตมาตลอดหนึ่งเดือน เรื่องนี้มันกวนจัยชั้นจิงจิ๊ง ตกลงหมอนั่นเค้าทำอาชีพไรกันแน่ฟร้า ท่าทางได้ตังเยอะด้วยสิ ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ หืมมม น่าสงสัยๆ เอาล่ะ ตัดสินใจแล้ว!! ชั้นต้องค้นหาความจิงมาหั้ยได้คอยดูจิ๊!!!

เป้าหมาย โซลท์
User Image


เนื้อติดกระดูกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก รักโซลท์ที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด heart heart heart


เรื่องสำรวจเลื่อนไปก่อนละกัน อ่า อิ่มแปล้เล้ย~
PostPosted: Sat Jun 10, 2006 2:45 pm


อาทิตย์ที่ 11 มิ.ย. 1379, ความซวยมาเยือน

User Image
ซวยแล้ว!!ซวยแล้ว!!ซวยแล้ว!! ทำกระถางบอนไซตกแตก!!โซลท์ต้องว่าแน่เลย ทำไงดี!!ทำไงดี!!

ออกไปที่ตลาด มีเงินติดตัวอยู่นิดหน่อย กะว่าจะไปซื้อกระถางใหม่ เดินหาไปทั่วตลาดเลย ได้แมวกวักนำโชคมาตัวนึงด้วยล่ะ........................................................................
แล้วตรูจะเอาแมวกวักมาทำบ้าอะไรฟร้า!!!!ตาแก่นั่นมาหลอกขาย ไม่ทันได้ตั้งตัวเผลอซื้อเลย ว๊อยยยยยยยย!!ทำไมชั้นเซ่ออย่างงี้ฟร้า!!จะ6โมงแล้ววว โซลท์กลับมาต้องโกรธแน่เลยอ่า ไม่อ๊าววว!!ไม่อยากหั้ยโซลท์โกรธอ่ะ รู้แล้ว!!เอาบอนไซไปซ่อนก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยหาทางจัดการ ไปฝังไม่ทันแน่ ใต้เตียงนี่แหละ หวังว่าโซลท์คงไม่ทันสังเกตุนะ หวังว่าอ่ะนะ...

โซลท์กลับมาแล้ว...ทำหน้าแปลกๆพอเห็นเรานั่งอยู่บนโต๊ะ เราทำไรส่อพิรุธไปป่าวหว่า ไม่หรอกมั้ง พอโซลท์ถามว่ากระถางไปไหน เราก็บอกว่าเอาไปตากแดดเห็นมันไม่ค่อยโต โซลท์ก็บอกว่ามืดแล้วไปเอาเข้ามาได้แล้วมั้ง เราก็บอกว่าหั้ยมันโดนน้ำค้างมั่ง เห็นมันไม่ค่อยสดชื่น โซลท์ทำหน้าประหลาดเข้าไปอีก จะสงสัยอะไรรึเปล่านะ...หลังจากกินข้าวเส็ด โซลท์จะกวาดบ้านตามปกติ เราก็อาสากวาดให้ โซลท์ดูเหมือนจะช้อกเล็กน้อยแฮะ ทำไมหว่า..แต่ยังไงก็ช่างเหอะ

พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นมาจัดการซะแล้ว เฮ่อ ทำไงดีน้า.....

Laxis
Vice Captain


Laxis
Vice Captain

PostPosted: Sat Jun 10, 2006 3:31 pm


จันทร์ที่ 12 มิ.ย. 1379,ฝกตกลงมาหนักเลย
User Image
ตื่นมาก็เจอฝนตกหนักเลย แบบนี้ก็ออกไปซื้อกระถางไม่ได้น่ะซี่!!วันอะไรกันเนี่ย!!=[]= เอาบอนไซออกมาดู สงสัยต้องหาที่ใส่ไว้ก่อนแล้วสิไม่งั้นก็ตายกันพอดี ก็เลยเอาไปใส่ในถังไว้ก่อนแล้วก็เอาดินใส่ เส็ดแล้วก็พรมน้ำนิดหน่อย เป็นบอนไซก็ดีเนอะ อึดดี


ต้นไม้จะมีความรู้สึกมั่งมั้ยน้า ถ้าโดนตัดกิ่งจะเจ็บมั่งรึเปล่านะ อยู่ข้างนอกโดนฝนทั้งวันต้องหนาวแน่เลย ฝนน่ะมันหนาวเย็นจริงๆนะ

.......แล้วถ้าต้องอยู่คนเดียวล่ะ จะเหงามั้ย.......................


ฝนซาลงแล้ว ถึงยังไงจะรอหั้ยฝนหยุดก็ช้าไป ถ้าโซลท์กลับมาก่อนก็แย่น่ะสิ ก็เลยออกไปที่ตลาด เพราะฝนตกคนเลยน้อย เสียดายไม่เจอตาลุงจอมขี้โกงนั่น ถ้าเจออีกล่ะก้อ จะงับให้หัวล้านเลยคอยดู!

เจอแล้ววววว!!!!!แจกันที่เหมือนอันเก่าเดี๊ยะ แต่ราคานี่สิ ซื้อเนื้อติดกระดูกได้เป็นถังเลยนะเนี่ย!!เงินที่โซลท์หั้ยไว้ใช้มันไม่พอแน่ๆ จะทำยังไงดีนะ
วันนี้โซลท์ไม่พูดถึงบอนไซเลย หรือว่าจะรู้แล้ว พรุ่งนี้คงต้องบอกโซลท์แล้วล่ะ...
PostPosted: Thu Jun 15, 2006 11:53 am


อังคารที่ 13 มิ.ย. 1379,อากาศแจ่มใส

ตื่นมาตอนเช้าโซลท์ก้อไม่อยู่แล้ว วันนี้ออกไปเช้าจังแฮะ ถึงจะเตรียมใจถูกว่าเอาไว้แล้วแต่ก็ยังตุ๊มๆต่อมๆอยู่ดี แบบนี้ต้องซ้อมเอาไว้ก่อนซะแล้ว เพราะเราเป็นคนผิดคงต้องพูดออกไปตรงๆสินะ

แจกันเป็นแบบนี้เพราะอะไรน่ะเหรอ!!?? ถูกแล้ว!! เป็นเพราะชั้นเองแหละ เยสส์!!

.............................อืม ฟังดูทุเรศยังไงก็ไม่รู้....

เป็นความผิดของชั้นเอง ชั้นยอมสละชีวิตเพื่อให้มันฟื้นคืนกลับมา

......เวอร์ไปหน่อยละ.............................................

ในที่สุดก็จนปัญญา พอโซลท์กลับมา ก็เลยยื่นแจกันให้โซลท์ดู ตอนนั้นชั้นพยายามคิดเหตุผลร้อยแปดมาอ้างให้ตัวเองพ้นผิด แต่สุดท้ายแล้ว ก่อนที่สมองจะสั่งการ สิ่งที่หลุดออกมาจากปากมีแค่คำว่า "ขอโทษ" ชั้นก้มหน้ารับผิด ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพหูตูบ หางตูบแค่ไหน ชั้นไม่กล้ามองหน้าโซลท์ ชั้นกลัวที่จะต้องเห็นหน้าที่โกรธเคืองของโซลท์ ชั้นเลยก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ชั้นรู้สึกเหมือนเป็นปีที่ต้องยืนอยู่ที่ตรงนั้น มีแต่ความเงียบระหว่างเรา มันอึดอัดมากๆ

ทำไมโซลท์ไม่พูดอะไรเลย?หรือว่าจะเกลียดชั้นแล้ว จะไล่ชั้นออกไปจากบ้านรึเปล่า ต้องคิดแน่ๆเลยคิดว่าชั้นทำแต่เรื่องเดือดร้อนให้โซลท์ ชั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรต่อโซลท์เลยซักอย่าง ชั้น...ชั้นโดนโซลท์เกลียดซะแล้วเหรอ....

ไม่เอานะ! ชั้นไม่อยากโดนโซลท์เกลียด ชั้นไม่อยากโดนโซลท์เกลียด ชั้นไม่อยากโดนโซลท์เกลียด!!!


"ต่อไปก็ระวังหน่อยละกัน..."

เสียงของโซลท์ปลุกชั้นจากภวังค์ ชั้นเงยหน้าขึ้นมองโซลท์ โซลท์ไม่ได้โกรธงั้นเหรอ แล้วทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะ โซลท์ดูเศร้ามากเลย

ชั้นเอื้อมมือออกไป จับเสื้อโซลท์เอาไว้แน่น ชั้นก้มหน้าแล้วน้ำตาก็ไหล โซลท์พูดอะไรซักอย่างที่เหมือนจะเป็นคำว่า บอกว่าไม่เป็นไรไง แต่ว่าตอนนั้น โซลท์จะยกโทษให้รึเปล่านั้นมันไม่สำคัญกับชั้นแล้ว

" ได้โปรดอย่าทำหน้าแบบนั้นเลยนะ... "

Laxis
Vice Captain


Laxis
Vice Captain

PostPosted: Thu Jun 15, 2006 12:36 pm


วันพฤหัสที่ 15 มิ.ย. 1379,ร้อนนรกแตกUser Image

เมื่อวานนี้ยุ่งๆเลยไม่ได้เขียน หลังจากวันที่กระถางแตกไป บอนบอน ก็ย้ายมาอยู่ในถังแทนเป็นการชั่วคราว หือ บอนบอน คืออะไรน่ะเหรอ ก็บอนไซคุงไงล่ะ แต่เรียกงั้นมันไม่เท่ห์เอาซะเลย ก็เลยเรียกว่า บอนบอน ไง น่ารักอ่ะดิ๊ แต่พอโซลท์ได้ยินก็ทำหน้าพิลึก จะว่าไปแล้วบอนบอนมาอยู่ที่บ้านโซลท์ได้ยังไงนะ โซลท์ดูไม่เหมือนคนชอบปลูกดอกไม้ต้นไม้เอาซะเลยเลย หรือว่าคงมีคนให้มาล่ะมั้ง เป็นคนสำคัญด้วยสินะ อาจเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก หรือ อาจจะเป็น...คนรัก?

ง่า....เริ่มมืดมนยังไงไม่รู้สิ เลิกคิดเรื่องนั้นดีกว่า เอาเป็นว่า เพราะว่าวันก่อนชั้นทำความเดือดร้อนให้โซลท์ ก็เลยคิดว่าจะทำอะไรเป็นการตอบแทนซะหน่อย ตอนแรกว่าจะทำความสะอาดแต่กลัวจะทำของพังอีก พอคิดไปคิดมา ก็นึกได้ว่าโซลท์มักจะซื้อของกลับมาทำอาหารเย็นให้กิน ไม่ก้อซื้ออาหารมาจากข้างนอกตลอดเลย ตกลงเอาไอ้นี่แหละ ทำอาหารเย็นให้โซลท์ประหลาดใจเล่นดีกว่า!!

ก่อนอื่นต้องหาวัตถุดิบก่อน คิดว่าจะทำอาหารปลา ก็เลยไปที่แม่น้ำ ไปจับปลาแข่งกะหมีแถวนั้น ชนะด้วยล่ะ 555 จากนั้นก็ต้องหาผัก เงินที่มีอยู่คงไม่พอซื้อของในตลาดก็เลยเก็บเอาแถวๆนั้น เจอหญ้าประหลาดรูปร่างเหมือนคนด้วยล่ะ พอถอนออกมามันก็ส่งเสียงร้องหนวกหูมากเลยUser Image

เที่ยวเก็บวัตถุดิบจนเกือบเย็นแน่ะ แต่ยังดีที่ทำเส็ดทันโซลท์กลับมา พอใส่ทุกอย่างลงไป น้ำซุบก็กลายเป็นสีเขียวคงเป็นเพราะผักสีตกลงไปมั้ง แต่ทำไมถึงมีฟองปุดๆด้วยหว่า แต่ไอ้น้ำซุบเนี่ยมันน่าสนุกดีนา พอเอาใบหญ้าไปโดนมันจะเหี่ยวทันทีเลย แหม น้ำซุบมหัศจรรย์แบบนี้ไม่อยากคิดเลยว่ามันจะอร่อยแค่ไหน

โซลท์ท่าทางเซอร์ไพร์สน่าดูอ้าปากค้างเชียว แต่มีผิดมีพลาดก็ตรงที่ปลามันดิ้นเหลือเกิน เด้งไปโดนหน้าโซลท์ด้วย พอโซลท์ถามว่านี่คืออะไร เราก็บอกว่า อาหารเย็น โซลท์ก็เงียบไปซักพัก ฮี่ๆ ท่าทางจะดีใจจนพูดไม่ออก แล้วโซลท์ก็พูดว่ายังไม่สุกนี่นา หือ...ทำไมต้องสุกด้วยล่ะ กินแบบนี้อร่อยออก พอจะกินหั้ยดูก้อโดนโซลท์ปรามเอาไว้ โซลท์ท่าทางรีบร้อนมากเลยเก็บทุกอย่างเข้าครัวไปอย่างเร็ว แหม ถึงจะตื้นตันแค่ไหน ก็ไม่เห็นต้องแอบเอาไปกินคนเดียวแบบนั้นก็ได้นี่นา ได้ยินเสียงขลุกขลักอยู่ในครัว แล้วโซลท์ก็ยกอาหารออกมาใหม่ แล้วบอกชั้นว่าต่อไปนายไม่ต้องทำอาหารแล้วนะ

โซลท์ไม่อยากให้ชั้นต้องลำบากสินะ โซลท์ใจดีจังเลย heart
PostPosted: Mon Jun 19, 2006 10:22 am


วันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. 1379,ร้อนอยู่อี๊กกก

ร้อน...ร้อนมากๆ ทำไมช้าวนี้มันถึงได้ร้อนแบบนี้หวา ร้อนแบบนี้ก้อต้องแช่น้ำล่ะนะ อ่างน้ำบ้านโซลท์น่าแช่มากเลย เป็นอ่างแบบฝรั่ง คล้ายๆอันที่บ้านที่รอคโคที่เคยอยู่กับพ่อแม่เลยล่ะ
เคยเห็นในทีวีเค้าใส่น้ำยาลงไปเยอะๆแล้วมีจะฟองเพียบเลย แต่บ้านโซลท์มีแต่แบบผงแฮะ ใช้ได้เหมือนกันรึเปล่านะ แต่ไอ้ "ขจัดคราบซึมลึก" นี่มันอะไรหว่า สโลแกนสบู่ใหม่รึเปล่านะ

Laxis
Vice Captain


Laxis
Vice Captain

PostPosted: Sat Jul 08, 2006 2:29 am


วันเสาร์ที่ 17 มิ.ย. 1379, อุ่นจังเลย ชอบจังอากาศแบบนี้

เป็นอีกวันที่อากาศแจ่มใส เมฆรูปร่างแปลกๆลอยเต็มท้องฟ้าไปหมด เสียงนกร้อง เพราะเสนาะหูดีจังเลยน้า ตอนโซลท์ไม่อยู่ลองเอาไอ้แผ่นกลมๆ มาลองฟังดูเหมือนกัน โซลท์สอนวิธีใช้ไอ้เครื่องที่เรียกว่า "สเตอริโอ" หรือ อะไรเนี่ย หั้ย แต่ก็จำไม่ค่อยได้หรอก ก็มั่วถั่วเอา ยังไงก็ตามมันก้อเพราะดีนะ แต่ชั้นชอบฟังเสียงนกร้องในวันแบบนี้มากกว่า

โซลท์ออกไปทำงานแต่เช้า บนโต๊ะมีกระดาษอะไรไม่รู้กองอยู่เต็มเลย หรือนี่จะเป็นงานของโซลท์รึเปล่านะ จริงสิถ้าตรวจสอบเอกสารพวกนี้อาจจะรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานของโซลท์ก็ได้ ในฐานะที่ชั้นเป็น "หัวหน้านายกบรรณาธิการประธานสมาคมผู้สืบสางเรื่องโซลท์ "(แต่งตั้งเอง) มันก็เป็นหน้าที่ของชั้นที่จะต้องตรวจดูเอกสารพวกนี้สินะ เอาละ

User Image

พอดูๆก้อเห็นแต่ รูปอะไรไม่รู้ขยุกขยิก พิลึก แถมตัวหนังสือมากมายมหาศาลนี่มันอารัยหว่า ยิ่งดูยิ่งงง แต่ว่าเอ๊ะ รูปภาพพวกนี้มันดูแปลกๆนะ ไม่สมดุลกันซะเลย
User Image


รู้แล้ว!!ทางสำนักพิมพ์คงจะพิมพ์ผิดพลาดล่ะสิ
แย่จิงๆเลย ทางสำนักพิมพ์ ก็ทำอะไรผิดพลาดได้เหมือนกันเนอะ

User Image


เอาล่ะ แบบนี้ก็เรียบร้อย
เอ๊ะ!นี่ก็ด้วย นี่ก็ด้วยหรอเนี่ย โถ่ สะเพร่าชะมัดเลย เอาเถอะ ลักซิสซะอย่าง แก้หั้ยหมดเลยละกัน!

User Image
User Image
User Image
User Image


หวา กว่าจะหมดเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย ฮี่ๆ โซลท์จะชมเรามั้ยน้า heart
PostPosted: Sat Jul 08, 2006 2:45 am


วันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. 1379, วันที่อบอุ่นอีกวัน ช่างเหมาะกับการเริ่มปฏิบัติการจิงๆ

เอาล่ะ คราวก่อนมีเรื่องเข้ามาขัดขวางทำให้ปฏิบัติการของเราต้องหยุดลง แต่ว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้ชั้นเลิกล้มความตั้งใจได้ง่ายๆหรอกนะ วันนี้แหละ อาชีพที่แท้จริงของโซลท์จะต้องถูกเปิดโปง!!

ตอนเช้า โซลท์ออกไปทำงานตามปกติ ตอน 6.00 น. ชั้นปิดบ้านเรียบร้อยก็ตัดสินใจเอาสมุดเล่มนี้ แอบสะกดรอยตามไป เป้าหมายเดินเข้าไปในเมือง ผ่านตลาด ในเวลาเช้าๆแบบนี้คนที่ตลาดจะเยอะเป็นพิเศษ ชั้นยังคงตามสะกดรอยต่อไป โอ๊ะ! เหมือนได้กลิ่นอะไรหอมๆนะ ไม่ได้ๆ!!! นี่ไม่ใช่เวลาจะมาสนใจเรื่องกินนะ ที่ต้องสนใจตอนนี้คือโซลท์ตะหาก แต่ก็หอมจิงๆเลยน้า หยุดนะเจ้ามารชั่วชั้นไม่ยอมหลงกลหรอก!!! แต่ว่า..แต่ว่า.....

แพ้แล้ว........... ชั้นคิดแบบนั้นขณะที่มีเนื้อติดกระดูกอยู่เต็มกระพุ้งแก้ม....เอาเถอะ ครั้งนี้ไม่ใช่โอกาสสุดท้ายซะหน่อย พรุ่งนี้เอาใหม่ก็ได้นี่นา ว่าแต่...

ที่นี่มันที่ไหนหว่า.......??

Laxis
Vice Captain


Laxis
Vice Captain

PostPosted: Sat Jul 08, 2006 12:22 pm


วันอังคารที่ 20 มิ.ย. 1379, ฟ้าครึ้ม

พอลองเดินไปเดินมา ก็พบว่าวนอยู่ที่เดิม อากาศอ้าวๆยังไงก็ไม่รู้ ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ฝนคงไม่ตกหรอกนะ

ชั้นไม่แน่ใจว่าอยู่ไกลจากเมืองแค่ไหน เดินยังไงถึงได้หลงมาได้ขนาดนี้นะ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ที่สำคัญคือต้องหาทางกลับบ้านให้ได้ก่อน ตอนนี้พอจะจับกลิ่นได้อยู่ ที่ที่มีเมืองมักจะมีกลิ่นเผาไหม้ของเครื่องยนต์รางๆ ถึงจะเป็นเดมิฮิวแมนที่มีประสาทรับกลิ่นสู้พวกเลือดบริสุทธิ์ไม่ได้ก็เถอะ แต่ถ้าแค่คลำทางกลับบ้านน่ะ ทำได้สบายอยู่แล้ว แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ ถ้าฝนตก กลิ่นพวกนั้นก็จะโดนลบไปหมด แล้วเราก็คงหมดหนทางกลับบ้านจริงๆ....

ไม่ได้ๆ!!ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคร่ำครวญนะ ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นโซลท์ต้องหาเราเจอแน่ๆ ...................................ใช่มั้ย?

พอเดินมาได้ครึ่งทาง ท้องก็ร้อง จิงสินะ ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยนี่นา ถ้าตอนนี้อยู่ที่บ้านล่ะก็คงได้กินขนมปังกรอบที่โซลท์ทำหั้ยเป็นอาหารเช้าไปแล้ว ทำไมถึงต้องกลายเป็นแบบนี้ด้วยน้า.......

ทั้งเหนื่อย..ทั้งหิว... ฝนตกลงมาจนได้ แถมยังหนักขึ้นหนักขึ้น ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ชั้นพยายามเบียดตัวเข้าไปในซอกหิน แต่ก็ยังไม่วายโดนฝนกระเซ็นใส่ ถึงจะเป็นแค่ละอองฝนแต่ก็หนาวจับใจ ชั้นมองไปข้างหน้า สายฝนที่พัดกระหน่ำทำให้ทัศนียภาพแย่ไปหมด ลมพัดแรงจนต้นไม้ที่เห็นรางๆเบื้องหน้าลาดไปกับพื้น เสียงลมที่ผ่านช่องหินเหมือนเสียงร้องของตัวอะไรซักอย่างที่ไม่ใช่ทั้งคนทั้งสัตว์ ละอองฝนที่กระเซ็นมาโดนจับตัวกันกลายเป็นหยดน้ำ หยดลงจากตัวชั้นเม็ดแล้วเม็ดเล่า...ชั้นเอามือกอดตัวเองไว้แน่น หนาว...หนาวเหลือเกิน.....ใครก็ได้.......



.................................


วันนั้นฝนก็ตกเหมือนกัน...

.......??......ใครกัน นายเป็นใคร...?

วันนั้นฝนก็ตกเหมือนกัน...

หุบปากนะ!!อย่าทำให้ชั้นคิดถึงเรื่องนั้น!!!

มือของแกมันเต็มไปด้วยกลิ่นสาบเลือด...

ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ชั้น!


แกมันน่าจะตายไปซะ

พอได้แล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!!!!!!


ช่วยด้วยโซลท์! ชั้นไม่ไหวแล้ว!
หนาวเหลือเกิน
กอดชั้นที
กอดชั้นที
กอดชั้นที
ชั้นทนความหนาวเย็นไม่ได้
ชั้นทนความเงียบเหงาว้าเหว่ไม่ได้






กอดชั้นที........









รู้สึกตัวอีกที ชั้นมาอยู่ที่ในเมืองได้ยังไงก็ไม่รู้ ชั้นแทรกตัวอยู่ในกองลังไม้เก่า เหนื่อยจนไม่อยากขยับตัว ถึงแม้ตัวจะเปียกปอนแต่ชั้นก็ไม่ได้สนใจ ขอพักแปปเถอะนะ ..........ง่วง...จัง.........
PostPosted: Tue Jul 11, 2006 9:17 am


วันพุธที่ 21 มิ.ย. 1379, ฟ้าใส


ชั้นรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวนิดหน่อย พอลืมตาขึ้นมาสิ่งที่เห็นคือ ใบหน้าของโซลท์
ชั้นขยี้ตาสองสามครั้ง ให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป

เป็น โซลท์ จริงๆ...

ชั้นโผเข้ากอดโซลท์แน่น
กลิ่นของโซลท์
ความอบอุ่นจากร่างกายโซลท์
ทั้งๆที่ห่างหายจากบ้านนี้ไปแค่วันเดียว แต่รู้สึกเหมือนเป็นปี
โซลท์กอดชั้นเบาๆ แล้วลูบหัว
สัมผัสจากมือโซลท์ให้ความรู้สึกของบ้าน
เป็นความรู้สึกที่อบอุ่น
เป็นความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน
นานแล้วสินะที่ชั้นไม่ได้รู้สึกอุ่นใจแบบนี้

.................


อาหารฝีมือโซลท์ดูจะอร่อยกว่าทุกที ชั้นกินเหมือนคนที่เพิ่งรอดชีวิตจากทะเลทราย หลังจากที่อาบน้ำล้างโคลน กับ เศษดินออกจากตัว ไม่รู้ว่าชั้นกลิ้งลงจากเขามารึไง ตัวถึงได้ขมุกขมอมขนาดนั้น แต่ก็ช่างเหอะ...




ชั้นหลับตา
ในความมืดนั้นชั้นเห็นเด็กคนหนึ่งนั่งดูบ้านที่กำลังลุกไหม้
ฝนที่ตกหนักไม่ได้ช่วยบรรเทาไฟที่โหมแรงนั้นเลย
เด็กคนนั้นนั่งอยู่บนกองเลือด มือทั้งสองข้างชุ่มไปด้วยเลือด...
เลือดที่มีสีแดงเหมือนไฟ...


ชั้นลืมตา
ในความมืดนั้นเป็นใบหน้าที่กำลังหลับ
ใบหน้านั้นดูยุ่งๆเหมือนยามตื่น
ขนาดตอนนอนยังใส่ที่คาดตาอยู่อีกหรอเนี่ย
ชั้นนึกขำนิดหน่อย แล้วกอดคนที่อยู่เบื้องหน้าแน่น

ชั้นงีบหลับไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่เห็นภาพแบบนั้นอีกเลย...

Laxis
Vice Captain


Laxis
Vice Captain

PostPosted: Tue Jul 11, 2006 9:40 am


วันพฤหัสที่ 22 มิ.ย. 1379, ฟ้าใส

วันนี้โซลท์อยู่บ้าน ชั้นก็นั่งวาดรูปเล่นตามปกติ โซลท์พยายามจะดูสมุดแต่ชั้นไม่ให้ดูหรอก...
ความลับ...ชั้นบอก โซลท์ดูสงสัยนิดหน่อย
ให้ดูไม่ได้เด็ดๆเลย...

User Image





วันนี้โซลท์เล่นกีต้าร์ด้วย ชอบจังเวลาโซลท์เล่นกีต้าร์ ดูเท่ชะมัด ถ้าเราเล่นแล้วจะดูเท่แบบนั้นมั่งมั้ยน้า heart


พอขอลองโซลท์กลับไม่ยอมหั้ยลอง ทำไมล่า~! โซลท์ใจร้ายยย!!
PostPosted: Tue Jul 11, 2006 11:20 am


วันศุกร์ที่ 23 มิ.ย. 1379, ฟ้าใส แต่ใจหม่นหมอง

วันนี้อากาศดีแต่เช้าเลย นกร้อง ผีเสื้อบินว่อนไปทั่ว ทั้งที่เป็นวันดีๆ แบบนี้ แท้ๆ....

แต่กลับมีไอ้บ้างี่เง่า ปากหมาหน้าตายโผล่มาป่วนวันอันแสนสงบสุขของชั้นได้ไงกันว้อยยยยย!!

ไม่ได้ๆ ต้องใจเย็นๆ จะไปสติแตกกับการกระทำของไอ้บ้านั่นไม่ได้ ก่อนอื่นขอเล่าหน่อยแล้วกัน เมื่อเช้าชั้นตื่นก่อนโซลท์ เมื่อวานชั้นขอร้องให้โซลท์อยู่บ้าน แต่วันนี้ชั้นไม่อยากเอาแต่ใจรั้งโซลท์ไว้อีก ถึงแม้ยังรู้สึกเหงาๆนิดหน่อยแต่ก็ช่วยไม่ได้ พอได้ยินแว่วๆว่าโซลท์จะไปบ้านแรนซ์ซัง เลยพลันคิดว่าขากลับโซลท์จะแวะซื้อเนื้อติดกระดูกมามั้ยน้า โซลท์เหมือนจะรู้ความคิดชั้นเลยบอกว่าจะซื้อมาฝากตอนขากลับ เย้! โซลท์น่ารักที่สุดเลยย เดี๋ยวก่อนสิ ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องนั้นซะหน่อยหนิ ที่สำคัญคือหลังจากนั้นตะหาก พอถึงตอนเย็นชั้นได้ยินเสียงเปิดประตู ชั้นก็วิ่งไปกอดโซลท์ด้วยความดีใจเหมือนปกติ แต่ที่อยู่ตรงนั้นมันไม่ใช่โซลท์น่ะสิ กลายเป็นไอ้บ้าหัวทองที่ไหนก็ไม่รู้ แถมไม่ทันที่ชั้นจะได้พูดอะไร หมอนั่นก็พ่นคำพูดกวนประสาทออกมาทันทีเลย จำไม่ค่อยได้หรอกนะว่าพูดไรมั่ง แต่ไอ้บ้านั่นบอกว่าชั้นต้องอยู่กะมันอาทิตย์นึง เพราะโซลท์ไม่อยู่ ไปเล่นคอนเสิร์ตหรืออะไรเนี่ย

เดี๋ยวก่อนเซ่! นี่ชั้นต้องอยู่กะไอ้บ้านี่อาทิตย์นึงเชียวเร้อออ แค่วันเดียวชั้นก็ประสาทจะแดกอยู่แล้วนะ โซลท์ทิ้งชั้นไว้กะไอ้บ้านี่ได้ง๊ายยย!!!

ไอ้บ้านั่นก็ถือวิสาสะเข้ามาหยิบโน่นเปิดนี่ หมอนั่นมองซ้ายมองขวาแล้วถามหาจานข้าวหมา แกคิดว่าชั้นเป็นมิเนเจอร์บ้อกแบ้กรึไงฟระ ตรูไม่ใช่หมานะว้อยยยยย!!!! scream ชั้นโวยวายใส่หมอนั่น แต่หมอนั่นก็เอาเฮดโฟนออกมานั่งฟังสเตอริโอเฉย หนอย ทำเมินตูเรอะ!! stressed คนอะไรน่าโมโหได้ขนาดนี้ฟระ

ตอนเข้านอนชั้นปิดห้องล็อกประตูแน่นแล้วเข้านอนด้วยความหงุดหงิดเกินร้อย หนอย ไอ้คนแบบนี้ขอหั้ยตื่นมาตอนเช้ามันหายหัวไปทีเท้อออ!!


User Image



หมอนี่จะเป็นคนที่โซลท์จ้างมาหรือจะเป็นคนรู้จักของโซลท์หรืออะไรไม่รู้ล่ะ แต่ชั้นไม่มีวันจะญาติดีกะคนอย่างหมอนี่เด็ดขาด!!

Laxis
Vice Captain


Laxis
Vice Captain

PostPosted: Thu Aug 16, 2007 11:43 am


วันอาทิตย์ที่ 25 มิ.ย. 1379

เมื่อคืนนอนไม่หลับ ถึงแม้ตอนนี้ฟ้าเพิ่งจะสว่าง แต่ตาชั้นค้างนอนต่อไม่ไหวซะแล้ว
ชั้นย่องออกจากห้องไปที่โซฟาที่เจ้าหมอนั่นหลับอยู่ หมอนั่นนอนกอดอกอยู่บนโซฟา โซฟาที่ชั้นนอนเหยียดตัวยาววาดรูปเล่นเป็นประจำ พอเทียบกับตัวหมอนี่แล้วดูเล็กไปถนัดตา ท่าทางอึดอัดยังไงไม่รู้ ถังน้ำแข๊งเปล่าวางอยู่บนโต๊ะข้างๆโดยยาแก้อักเสบอยู่ใกล้ๆ ผ้าที่ใช้ประคบน้ำแข็งละลายหมดไปนานแล้ว เลยเลื่อนตกอยู่ข้างๆทำให้เห็นจมูกที่ยังบวมอยู่จากเมื่อวาน ความเกลียดที่มีต่อหมอนี่วันนี้หดหายไปมากกลายเป็นความรู้สึกผิดแทน
ตั้งแต่ก่อนนั้นมาแล้วไม่ว่าจะเป็นแผลอะไรสำหรับชั้นก็จะหายไปเองในไม่กี่วัน ชั้นคิดว่าเป็นเรื่องปกติมาตลอด แต่จริงๆแล้วคนปกติไม่สามารถรักษาตัวเองได้ ดังนั้นชั้นก็เลยไม่รู้เลยจริงๆว่าจะต้องทำยังไงกับแผลแบบนี้
ชั้นยืนคิดอยู่ซักพักเลยตัดสินใจหยิบกระเป๋าเงินที่มีเงินอยู่นิดหน่อย เขียนโน้ททิ้งไว้แล้วออกไปจากบ้านเพื่อไปที่ตลาดตอนเช้า


..............................

ตอนสายๆชั้นกลับมาที่บ้าน พอเปิดประตูหมอนั่นยืนอยู่ที่ประตูพอดี ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ พอเห็นชั้นหมอนั่นก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์นิดหน่อย แล้วเดินกลับไปที่โซฟากางหนังสืออ่านท่าทางกวนตีนเหมือนเดิม ชั้นเข้าไปหาหมอนั่นหยิบเอาของที่ซื้อจากร้านส่งให้

"ค...คือว่าชั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ต...แต่ว่าชั้นไปเจอคนคนนึงเค้าบอกว่าถ้าใส่ไอ้นี่ไว้จะช่วยแก้จมูกบวมได้นะ"


User Image - Blocked by "Display Image" Settings. Click to show.

หมอนั่นอ้าปากตาค้าง เหมือนงงๆไปชั่วครู่ หมอนั่นอ้าปากดูเหมือนจะตะโกนออกมาแต่ก็ไม่พูดอะไร ซักพักหลังจากตรึกตรองอยู่ หมอนั่นก็ถามขึ้นมาว่า

"นี่ล้อเล่นใช่ป่ะ"

ชั้นงงนิดหน่อย เลยถามกลับไปอย่างเป็นห่วง
"หรือว่าเล็กไปหรอ"

"ชั้นเอาไปเปลี่ยนก็ได้นะ"

ชั้นยืนอยู่อย่างนั้นรอคำตอบด้วยสีหน้าจริงจัง หมอนั่นมองหน้าชั้นซักพัก แล้วก็รับของไปจากมือแล้วกวักมือเรียกให้มานั่งข้างๆ ชั้นก็ทำตามแต่โดยดี หมอนั่นไม่พูดอะไร เอาลูกกลมๆที่คนแปลกๆที่ตลาดเร่เรียกว่า "อุปกรณ์รักษาจมูกแบบหายเร็วทันใจ" ใส่ที่จมูกชั้นแทน ขณะที่ชั้นกำลังจะถามว่าทำอะไร หมอนั่นก็หายไปในครัวและกลับออกมาพร้อมกล้องโพรารอย หมอนั่นถ่ายรูปชั้นหนึ่งใบ แล้วหยิบรุปออกมาเดินไปรอบๆโซฟา ชั้นก็มองตาม ซักพักหมอนั่นก็หยุดที่หน้าชั้นพร้อมส่งรุปให้ มีปากกาเมจิกเขียนว่า " โง่ " ตัวใหญ่แล้วโยงลูกศรมาที่หน้าชั้น



แล้วของในบ้านก็ลอยไปมาพร้อมกับเสียงโวยวาย
PostPosted: Wed Aug 22, 2007 10:43 am


วันจันทร์ที่ 26 มิ.ย. 1379




แอบดึงผ้าห่มหมอนั่นตอนหลับ

แอบเอาปากกาเมจิกเขียนที่เท้าหมอนั่นตอนหลับ

แอบเอาดอกไม้ปักไว้บนหัวหมอนั่นตอนหลับ

แอบเอาดินสอสีเสียบจมูกหมอนั่นตอนหลับ

Laxis
Vice Captain


Laxis
Vice Captain

PostPosted: Wed Aug 22, 2007 11:27 am


วันอังคารที่27 มิ.ย. 1379

เอ่อ เงินหมดอ่ะ…...
รู้แล้ว! ชวนหมอนั่นออกข้างนอกแล้วให้ซื้อให้ดีกว่า! แต่ต้องไปง้อหมอนั่นสิ เรื่องสิ ทำไมชั้นต้อง......แต่ว่าอยากกินเนื้อติดกระดูก แต่ว่าชั้นไม่ยอมให้หมอนั่นง่ายๆหรอกเฟร่ย....แต่..อยากกินเนื้อติดกระดูก..........แต่ว่า...............!!





หน้าบูดของหมอนั่นเปลี่ยนเป็นงงนิดๆขณะที่กำลังขัดรูปบนหัวแม้เท้าตัวเองออกอย่างเอาเป็นเอาตาย ขอโทษ..ปากกาเมจิกรุ่นลักซิสคุงใช้ ไม่มีลบเลือนไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว แล้วหมอนั่นก็ยอมตกลง.... ฮะ! มาแปลก! แถมยังแอบแสยะยิ้มเลกๆอีก ไอ้หมอนี่มันกวนส้นตีนจิงจิงเลยเฟร่ย !!

พอออกมาตรงย่านตลาดก็รู้สึกว่าเป็นเป้าสายตา คุณพี่ผู้หญิงร้านขนมยื่นถาดให้หมอนั่นด้วยท่าทางเขินอาย แล้วลูบหัวชั้น แถมขนมให้ด้วย ลาภลอยๆ เป็นแบบนี้ไปตลอดทาง บางทีก็มีพวกเด็กสาวๆ แอบซุบซิบกันแล้วหน้าแดงมั่งล่ะ คุณป้าแถมเนื้อให้มั่งล่ะ แหม เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามากับหมอนี่จะเริ่ดหรูดูมีสกุลขนาดนี้ เอ๊ะ แต่หน้าแดงนี่ หรือว่า หมอนี่มันจะป๊อบ!!?? ไม่จริงน่า ดูตรงไหนมันป๊อปกันฟระ หัวก็ฟูๆ สีทองแปร๊นดูก็รู้ว่านิสัยไม่ดี สายตาก็ไม่น่าไว้ใจ แล้วยังรอยยิ้มแสยะแบบตูหล่อเนี่ยแหละที่น่าหมั่นไส้ที่สุดเลยเฟร่ย!!! ที่สำคัญเวลาอยู่ต่อหน้าสาว จิ้งจอกก็กลายเป็นลูกแกะไปได้ “ของขวัญจากสาวงามผมจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะครับ” “แหม ทำงานหนักแย่เลยนะครับ ให้ผมเลี้ยงน้ำคุณสักแก้วดีมั้ยครับ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ยังไงล่ะครับ” โอ๊ยยยยยยย จะอ้วก! หือ หมอนั่นหันมาทางนี้ทำไมฟระ เฮ่ย แล้วรอยยิ้มแบบได้ชัยชนะอะไรบางอย่างนั่นมันอาร้ายยยยยย ไอ้คิงคองหัวท๊องงงงงงงงงงงงงงงงง !!! แกดูถูกชั้นร้อออออออออออออ!! แน่ะ ยังมีหน้ากลับไประริก ระรี้อีกนะ ชั้นเลยอาศัยจังหวะช่วงนึงตะโกนออกมา

“ พี่สาวทุกคนครับ!ระวังข้างหลังครับ!!” พี่สาวคนสวยทั้งหลายหันมองทันใด ขณะนั้นเอง ชั้นก็เหยียบไปเต็มแรงที่หัวแม่เท้าของหมอนั่น แรงพอที่จะทำให้หมอนั่นร้องจ้ากเลยทีเดียว หมอนั่นอ้าปากค้าง แต่พอสาวๆหันกลับมามาดหล่อก็คืนจอทันที ปากสั่นเลยเชียวนะ วะฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า ไอ้หน้าหม้อ ต่อไปเรียกหมอนี่ว่าหม้อทองเหลืองน่าจะดีนะ สาวๆโบกมือลาหมอนั่นแล้วค่อยๆทยอยจากไปทีละคน พอคนสุดท้ายไป ชั้นเริ่มรู้สึกเหมือนเงาทะมึนบางอย่างแฮะ หมอนั่น หันมายิ้ม เป็นยิ้มที่น่าสงสัยที่สุดในโลก จะทำใจดีล่อชั้นเข้าไปใกล้สิ อย่าหวังจะได้แอ้ม....อ๊ะ!!!! ในมือนั่นมันเนื้อติดกระดูกนี่น่า ฮิ้วววว เนื้อติดกระดูกจ๋า โอ๊ยๆๆๆๆๆ!!!! อย่าโม่หัว โอ๊ย อย่าๆๆๆๆ เจ็บน้า อย่า! โอ๊ยๆๆๆๆ!!! gonk

User Image
Reply
[ [ Character Journal ] ]

Goto Page: 1 2 [>] [»|]
 
Manage Your Items
Other Stuff
Get GCash
Offers
Get Items
More Items
Where Everyone Hangs Out
Other Community Areas
Virtual Spaces
Fun Stuff
Gaia's Games
Mini-Games
Play with GCash
Play with Platinum